วันที่ 16 ธันวาคม 2564 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดการเสวนา “การเตรียมความพร้อมของนักวิจัยเพื่อขอทุนวิจัยของประเทศจากผู้ให้ทุนวิจัยระดับแนวหน้า 7 PMU” ในงานมหกรรมงานวิจัยส่วนภูมิภาค และวันนักประดิษฐ์ ประจำปี 2564 ซึ่งจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 16 – 18 ธันวาคม 2564 ณ อาคารทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง
ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ รองศาสตราจารย์ ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม
รองผู้อำนวยการ หน่วยบริหารและจัดการทุนวิจัยและ นวัตกรรมด้านการพัฒนาระดับพื้นที่
(บพท.) ดร.วรินธร สงคสิริ รักษาการผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุน
ด้านการพัฒนากำลังคน
และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาการวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) ศาสตราจารย์
ดร.สิรี ชัยเสรี ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันประเทศ
(บพข.) นายวิเชียร สุขสร้อย รองผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จรวยพร ศรีศศลักษณ์ รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข
(สวรส.) และนางสาวกุลวรา โชติพันธุ์โสภณ
รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) เข้าร่วมการเสวนาฯ
ในรูปแบบออนไลน์
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง
ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวว่า วช.
ได้มีการบริหารจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ในปีงบประมาณ 2566 ทาง PMU ได้มีการฉายภาพในยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ทั้ง 4 ยุทธศาสตร์ ยุทธศาสตร์ที่ 1
การพัฒนาเศรษฐกิจไทยด้วยเศรษฐกิจสร้างคุณค่าและเศรษฐกิจสร้างสรรค์
ให้มีความสามารถในการแข่งขัน และพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน พร้อมสู่อนาคต โดยใช้วิทยาศาสตร์
การวิจัยและนวัตกรรม ยุทธศาสตร์ที่ 2
การยกระดับสังคมและสิ่งแวดล้อมให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน สามารถแก้ไขปัญหาท้าทาย
และปรับตัวได้กันพลวัตการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยใช้วิทยาศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม
ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
การวิจัยและนวัตกรรมระดับขั้นแนวหน้าที่ก้าวหน้าล้ำยุคเพื่อสร้างโอกาสใหม่และความพร้อมของประเทศในอนาคต
และยุทธศาสตร์ที่ 4
การพัฒนากำลังคนและสถาบันด้านวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม
ให้เป็นฐานการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศแบบก้าวกระโดดและอย่างยั่งยืน
โดยใช้วิทยาศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม รูปแบบการรับข้อเสนอการวิจัยและนวัตกรรม วช.
มี 4 รูปแบบ รูปแบบที่ 1 Open Call เปิดรับข้อเสนอการวิจัย
รูปแบบที่ 2 รูปแบบ Commissioning คัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการดำเนินงานในแต่ละกลุ่มเรื่องเพื่อดำเนินงานวิจัย
รูปแบบที่ 3 รูปแบบ Joint Project ดำเนินงานวิจัยตามความร่วมมือ
และรูปแบบที่ 4 รูปแบบ Co-funding ดำเนินงานวิจัยโดยการร่วมทุนวิจัย
ส่วนของระบบ วช. ใช้ร่วมกับทุก PMU ในการรับข้อเสนอโครงการ
คือระบบ NRLLS เป็นระบบที่นักวิจัยอัพเดทข้อมูลวิจัย
ติดตามประกาศรับข้อเสนอการวิจัยและนวัตกรรม ส่งข้อเสนอเพื่อขอรับการสนับสนุนการวิจัย
รวมถึงสามารถศึกษาแนวทางและเกณฑ์เบื้องต้นในการพิจารณา ข้อเสนอการวิจัยและนวัตกรรม
นอกจากนี้ยังติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินการวิจัยและนวัตกรรม
ส่วนการนำผลงานวิจัย สู่การใช้ประโยชน์ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงวิชาการ
เชิงสังคมและชุมชน เชิงนโยบาย และเชิงพาณิชย์
และยังสามารถประเมินระดับความพร้อมของการวิจัย
ในครั้งนี้เป็นการฉายภาพของการจัดการในบทบาทที่ วช. ดูแลอยู่ ในฐานะ 1 ใน PMU
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวถึงแนวโน้มการวิจัยและนวัตกรรมระดับประเทศ และระดับภูมิภาคในอนาคตว่า ในทุก PMU จะเห็นภาพฐานการทำงานที่ได้มีการเดินหน้ามาในช่วงที่มีการปฏิรูประบบการวิจัยและนวัตกรรมในปี 2562 จนถึงปัจจุบันจะเห็นความเชื่อมโยง และใกล้เคียงกันก็คือ เรื่องของงานวิจัยที่จะตอบรับกับความต้องการ เป็นประเด็นหลัก ๆ สิ่งเหล่านี้เป็นเป้าหมายที่จะเกิดขึ้นในการบริหารทุนวิจัยของทุก PMU ในกรอบของคำว่า “ใช้ประโยชน์” ครอบคลุมได้หลายมิติ ในความพร้อมของนักวิจัย จะได้เห็นภาพของการทำงานในมิติทางวิชาการ การยอมรับในมาตรฐานระดับประเทศ ระดับสากล เกิดการสนับสนุนทุนวิจัยในส่วนการใช้งานที่ตอบรับในเชิงของโจทย์ที่ท้าทาย โดยเฉพาะในเชิงของคุณภาพ สิ่งแวดล้อม สังคมเชิงพื้นที่ ก็จะเห็นภาพการทำงานครอบคลุมมากขึ้นในทุกโปรแกรม ส่วนประเด็นของการเลื่อมล้ำ ประเด็นสุขภาพ ประเด็นของการนำนวัตกรรมมาใช้ในเชิงพื้นที่ เป็นประเด็นที่ PMU พยายามมุ่นเน้นการมีส่วนร่วมในภาคธุรกิจ หรือในภาคประชาคมที่จะเข้ามาทำให้เกิดการเข้มแข็ง แล้วก็สามารถเสริมความพร้อมเชิงเทคโนโลยี ทำให้เกิดการนำเข้า เป็นต้นทุนของประเทศ อีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น