วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2563

ซีพีเอฟ ชูผลิตภัณฑ์รักษ์โลกบรรลุรายได้ 30% ปี 2563 เดินหน้าสร้างสมดุลสิ่งแวดล้อมมุ่งสู่ “ธุรกิจสีเขียว”

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563 บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ  เดินหน้าเพิ่มรายได้สีเขียว (Green Revenue) เป็น 30% ปีนี้  สะท้อนการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าควบคู่ไปกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคมและชุมชน เดินหน้าสู่ธุรกิจสีเขียวในอนาคต 

นางสาวกุหลาบ กิมศรี รองกรรมการผู้จัดการ สำนักระบบมาตรฐานสากล ซีพีเอฟ กล่าวว่า ในปี 2562 กลุ่มผลิตภัณฑ์สีเขียวของบริษัทฯ กว่า 770 รายการ ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์บก ผลิตภัณฑ์ไก่สด ผลิตภัณฑ์อกไก่นุ่ม และกลุ่มผลิตภัณฑ์เป็ดสดและเป็ดปรุงสุกแช่แข็ง ได้รับการรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์และฉลากลดโลกร้อน ตามมาตรฐาน ISO 14067 จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. และฉลากวอเตอร์ฟุตพริ้นท์ตามมาตรฐาน ISO 14046 จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สามารถสร้างได้สีเขียวได้ 25% ของรายได้รวมของบริษัทฯ 

สำหรับปี 2563 อบก. ได้มอบฉลากลดโลกร้อนให้กับผลิตภัณฑ์อาหารไก่เนื้อของ ซีพีเอฟ 6 รายการ สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 77,500  ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าในปี 2562 หรือเท่ากับการปลูกต้นไม้ 1,280,000 ต้น  ซึ่งอาหารสัตว์ของ ซีพีเอฟ นอกจากจะให้ความสำคัญกับคุณค่าทางโภชนาการของสัตว์แล้ว ยังคำนึงถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน รวมถึงผลิตภัณฑ์ซอสพริกและซอสมะเขือเทศ 8 รายการ ได้รับการรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์  บริษัทฯ ยังดำเนินโครงการต่างๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายรายได้สีเขียว 30% ในปี 2563   อาทิ นวัตกรรมการผลิตอาหารสุกรรักษ์โลก เพื่อให้สัตว์สุขภาพดีและรักษ์โลกไปพร้อมๆ กัน  ลดปริมาณไนโตรเจนในมูลสุกรได้ถึงร้อยละ 20-30 เทียบเท่ากับการปล่อยก๊าซไนตรัสออกไซด์ประมาณ 90 ตัน หรือเทียบเท่ากับการปลูกป่า 3,600 ไร่ ซึ่งสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 41,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ 

 


“การเพิ่มรายได้สีเขียวอย่างต่อเนื่องของ ซีพีเอฟ สะท้อนให้เห็นถึงหลักการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในการสร้างสมดุลสิ่งแวดล้อมเพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ซึ่งบริษัทฯ มีเป้าหมายชัดเจนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สีเขียว ควบคู่ไปกับการดำเนินโครงการหลายรูปแบบที่สนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สู่เป้าหมายหมายธุรกิจสีเขียวในอนาคต” นางสาวกุหลาบ กล่าว 

ซีพีเอฟ นำหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาเป็นแนวทางในการลดผลกระทบและของเสียในกระบวนผลิต เพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากทรัพยากรและหมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียนผลิตไฟฟ้าจากโซล่าร์รูฟท็อป ติดตั้งบนหลังคาโรงงานและอาคารสำนักงาน โซล่าร์ฟาร์ม และไบโอก๊าซ ติดตั้งในฟาร์มสุกร และการบำบัดน้ำเพื่อหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่กว่า 90% ในธุรกิจฟาร์มกุ้ง เป็นต้น ซึ่งเป็นการลดการใช้ทรัพยากรจากธรรมชาติ

ซีพีเอฟ ยังคงมุ่งมั่นลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้พลังงานต่อหน่วยการผลิตลงตามเป้าหมาย 25% ในปี 2568 เทียบกับปีฐาน 2558 ตามเป้าหมายการสร้างความมั่นคงทางอาหารและพอเพียงให้กับมนุษยชาติ (People)  ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของโลกใบนี้ (Planet)  และสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นจากการทำธุรกิจ (Profit) ให้กับบริษัทฯ โดยมุ่งสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์สีเขียว เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ต่อสังคมอย่างยั่งยืน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เลขาธิการ ส.ป.ก. และคณะร่วมติดตามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการ จังหวัดสงขลา

      ศาสตราจารย์ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรแล...