วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

กยท. พร้อมเปิดตลาดกลางยางฯ จ.ระยอง ศูนย์กลางซื้อ - ขายภาคตะวันออก ย้ำ ระบบตลาดมีมาตรฐาน ยางคุณภาพดี ราคาเป็นธรรม


          กยท. เดินหน้าเปิด “ตลาดกลางยางพาราจังหวัดระยอง” เป็นศูนย์กลางซื้อ – ขายยางภาคตะวันออก วางฐานรองรับการพัฒนายางภาคตะวันออกและขยายตัว EEC ย้ำระบบตลาดมีการกำหนดหลักเกณฑ์มาตรฐานร่วมกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย คัดคุณภาพยางก่อนส่งมอบ มั่นใจราคายางเป็นธรรม


            นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ด้านธุรกิจและปฏิบัติการ เปิดเผยว่า กยท. ได้ดำเนินการจัดตั้งตลาดกลางยางพาราจังหวัดระยองขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางการซื้อขายยางพาราในภาคตะวันออก โดยเมื่อวันที่ 27 พ.ค. ได้จัดการประชุมเสวนาผู้ซื้อ – ผู้ขาย เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และระเบียบการซื้อขาย ของตลาดกลางแห่งนี้ ณ สำนักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดระยอง อ.วังจันทร์ จ.ระยอง โดยมีนายปิยะ ปิตุเดชะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง เป็นผู้ส่งมอบตลาดยางแห่งนี้ให้ กยท. เข้ามาดูแลดำเนินงานรับผิดชอบในรูปแบบตลาดกลางยางพาราต่อไป


            นายณกรณ์ กล่าวว่า ภาคตะวันออกมีพื้นที่ปลูกเป็นอันดับ 3 ของประเทศ โดยมีการปลูกยางพารากระจายอยู่แทบทุกจังหวัด ประกอบด้วย ระยอง จันทบุรี ตราด ชลบุรี และฉะเชิงเทรา  มีพื้นที่สวนยางที่กรีดได้ประมาณ 2.5 ล้านไร่  ผลผลิตไม่ต่ำกว่า 6.5 แสนตันต่อปี จังหวัดระยองถือเป็นจุดภูมิศาสตร์ที่มีความเข้มแข็ง เนื่องจากสามารถเชื่อมโยงยางไปยังผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ยาง ซึ่งมีอยู่มากในบริเวณปริมณฑลและภาคตะวันออก ซึ่งมีเขตนิคมอุตสาหกรรม สามารถช่วยพัฒนาด้านการตลาดยางพารารองรับการขยายตัวตามโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ของรัฐบาล ดังนั้น การจัดตั้งตลาดกลางยางพาราจังหวัดระยอง จึงเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญเพื่อเป็นศูนย์กลางซื้อขายยางพาราภาคตะวันออก สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ยางพาราชาติ ยกระดับราคายางให้มีเสถียรภาพ


            ตลาดกลางยางพาราจังหวัดระยองเปิดให้บริการทุกวันทำการ มีการให้บริการ 2 รูปแบบ คือ ให้บริการ ณ สำนักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดระยอง อ.วังจันทร์ แต่เกษตรกรที่อยู่ไกลจากตลาด สามารถสมัครเป็นตลาดเครือข่ายตลาดกลางได้ ในปี 2563 ยางที่ซื้อขายผ่านตลาดกลางฯ ได้แก่ ยางแผ่นดิบและยางแผ่นรมควัน ส่วนปี 2564 จะเริ่มเปิดให้บริการตลาดกลางน้ำยางสดและยางก้อนถ้วย เพื่อให้ครอบคลุมผลผลิตของเกษตรกร และสอดคล้องกับความต้องการตลาด คาดว่าจะมีปริมาณยางผ่านตลาดแห่งนี้ประมาณ 12,000 ตันต่อปี


“จุดเด่นของตลาดกลางฯ คือสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ซื้อและผู้ขาย น้ำหนักยางที่เที่ยงตรง มีการกำหนดมาตรฐานยางที่ชัดเจน มีการคัดคุณภาพยางก่อนส่งมอบ  เพื่อสร้างความมั่นใจให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย และให้ซื้อขายยางได้ในราคาที่เป็นธรรม”


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เลขาธิการ ส.ป.ก. และคณะร่วมติดตามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการ จังหวัดสงขลา

      ศาสตราจารย์ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรแล...