วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

VICTAM Asia 2026 กลับมาเยือนกรุงเทพฯ อีกครั้ง !! งานแสดงอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ สุขภาพสัตว์ และเทคโนโลยีการสีข้าว


วันที่ 14 พฤศจิกายน: งาน VICTAM Asia 2026 ผนึกกำลัง VIV Health & Nutrition Asia และ GRAPAS Asia 2026 เตรียมกลับมาเปิดงานแสดงสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และการแปรรูปธัญพืชระดับภูมิภาค ตั้งแต่กระบวนการผลิตอาหารสัตว์ เทคโนโลยีการโม่แป้งและสีข้าว ไปจนถึงโภชนาการและสุขภาพสัตว์ โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 – 12 มีนาคม 2569 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ


งาน VICTAM Asia 2026 ในปีนี้ มุ่งนำเสนอนวัตกรรมในกระบวนการผลิตอาหารสัตว์ ตั้งแต่สัตว์เศรษฐกิจ สัตว์ปีก สัตว์น้ำ และสัตว์เลี้ยง นวัตกรรมในการโม่แป้ง การสีข้าว พร้อมเทคโนโลยีและโซลูชันล้ำสมัยที่ครอบคลุมตั้งแต่สารเติมแต่งและวัตถุดิบ เครื่องจักรการผลิต ระบบอัตโนมัติ โปรแกรมการผลิต ส่วนผสมเพื่อสุขภาพ การวิเคราะห์ข้อมูล และการควบคุมคุณภาพ เพื่อส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับประสิทธิภาพ ความยั่งยืน และขีดความสามารถทางการแข่งขันในตลาดเอเชียที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง



ทั้งนี้ การจัดงานในปี 2569 จะนำเสนอแนวคิด “Themed Days” เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้เข้าชมและสร้างประสบการณ์เชิงลึกที่เน้นหัวข้อเฉพาะด้าน โดยความร่วมมือกับสมาคมอุตสาหกรรมอาหารสัตว์จากประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง ภายในงานจะมีการเชิญผู้ประกอบการโรงงานอาหารสัตว์ที่มีความต้องการซื้อจริงให้เข้าร่วมงาน เพื่อให้เกิดการจับคู่และกระตุ้นให้เกิดการติดต่อทางธุรกิจที่มีคุณค่า ระหว่างผู้เข้าชมและผู้แสดงสินค้า โดยในแต่ละวันจะมีการนำเสนอเครื่องจักร การสาธิตการทำงานจริง การบรรยายเชิงเทคนิค และการอบรมโดยผู้เชี่ยวชาญในหัวข้อที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้


Feed Milling Focus เทคโนโลยีเครื่องบดและอบแห้งอาหารสัตว์ โดยเน้นประสิทธิภาพด้านพลังงานและความสม่ำเสมอของคุณภาพผลิตภัณฑ์ เหมาะสำหรับผู้ประกอบการ ผู้จัดการโรงงานอาหารสัตว์ และวิศวกรที่ต้องการยกระดับประสิทธิภาพการผลิตและความยั่งยืน


Flour Milling Focus เทคโนโลยีเครื่องรีดเมล็ดพืช โรงโม่ และระบบจัดเก็บธัญพืช โดยเน้นโซลูชันเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการจัดการผลผลิต เหมาะสำหรับผู้ประกอบการโรงสี ผู้ดูแลคลังเก็บ และผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์


Pet and Aqua Feed Focus เทคโนโลยีการอัดรีด การบรรจุ การชั่งน้ำหนัก และการจ่ายส่วนผสม ที่แสดงถึงความแม่นยำและนวัตกรรมในการพัฒนาและปรับสูตรอาหารสัตว์ เหมาะสำหรับนักโภชนาการ นักพัฒนาสูตรอาหาร และผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรที่ต้องการยกระดับคุณภาพและความถูกต้องในการผลิต



การเข้าร่วมในช่วง Themed Days จะเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกับแนวโน้ม เทคโนโลยี และโซลูชันที่กำลังขับเคลื่อนประสิทธิภาพของอุตสาหกรรมการผลิตอาหารสัตว์และการแปรรูปธัญพืชในยุคปัจจุบัน


โดย VICTAM Asia 2026 คาดว่าจะมีผู้ร่วมแสดงสินค้าจำนวน 300 ราย และผู้เข้าชมงานจากทั่วโลกมากกว่า 9,000 คน พร้อมบริษัทเทคโนโลยีชั้นน้ำที่จะมาร่วมสาธิตเทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติ ที่ส่งเสริมความยั่งยืน และความแม่นยำในกระบวนการผลิต อาทิ:



เทคโนโลยีกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน


•           Geelen Counterflow (เนเธอร์แลนด์) - ระบบอบแห้งและทำความเย็นแบบ Counterflow ประหยัดพลังงานสูงสุดถึง 80% และปลอดการปล่อยมลพิษ


•           Cimbria Heid GmbH (เดนมาร์ก) - เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ใช้พลังงานต่ำ ลดการปล่อยฝุ่น เพิ่มมาตรฐาน และรักษาคุณภาพอาหารสัตว์ได้อย่างยั่งยืน



ระบบอัตโนมัติ ดิจิทัล และความแม่นยำ


•           KSE Process Technology B.V. (เนเธอร์แลนด์) - ระบบอัตโนมัติ PROMAS ST ที่รวมการชั่ง การจ่าย และการผสมเข้าด้วยกัน รองรับนวัตกรรมอุตสาหกรรม 4.0


•           ANDRITZ Feed & Biofuel A/S (เดนมาร์ก) - ผู้ผลิตอุปกรณ์และโซลูชันครบวงจรสำหรับการผลิตอาหารสัตว์และชีวมวลคุณภาพสูง


•           Hydronix Ltd (สหราชอาณาจักร) - ผู้นำด้านเซนเซอร์ตรวจวัดความชื้นด้วยไมโครเวฟแบบเรียลไทม์


•           iGrain ApS (เดนมาร์ก) - ระบบ IoT เพื่อตรวจสอบอุณหภูมิ ความชื้น และคาร์บอนไดออกไซด์ ป้องกันการเน่าเสียและเพิ่มความปลอดภัยของอาหารหลังการเก็บเกี่ยวระบบโรงงานแบบครบวงจรและนวัตกรรมเครื่องจักร


•           Amandus Kahl GmbH & Co. KG (เยอรมนี) - ผู้นำด้านเทคโนโลยีการอัดเม็ดสำหรับอาหารสัตว์ เชื้อเพลิงชีวภาพ และการรีไซเคิล


•           Ottevanger Milling Engineers (เนเธอร์แลนด์) - ผู้พัฒนาเครื่องจักรและไลน์ผลิตอาหารสัตว์และธัญพืชระดับโลก


•           YEMMAK A.S. (ตุรกี) - ผู้ออกแบบโรงงานอาหารสัตว์แบบครบวงจรที่ผสานระบบกู้คืนพลังงาน ลดของเสีย และใช้เชื้อเพลิงหมุนเวียน


•           Vibrafloor (ฝรั่งเศส) - ผู้พัฒนาระบบพื้นไซโลแบบสั่นที่สามารถระบายวัตถุดิบได้หมดโดยไม่เกิดฝุ่น เพิ่มความปลอดภัยและสุขอนามัยในการจัดเก็บ

 


ควบคุมอุณหภูมิและสิ่งแวดล้อม


•           FrigorTec GmbH (เยอรมนี) - ผู้ผลิตระบบทำความเย็นสำหรับเก็บรักษาธัญพืช Granifrigor™ ที่ยืดอายุการเก็บรักษาโดยไม่ใช้สารเคมี


 

“VICTAM Asia 2026 รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง ที่จะได้เป็นเจ้าภาพจัดงานด้านโภชนาการสัตว์ที่ครบวงจรที่สุดในภูมิภาค ร่วมกับ Health and Nutrition Asia อีกครั้ง งาน VICTAM Asia 2026 ไม่ใช่เพียงงานแสดงสินค้า แต่เป็นการขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ชาญฉลาด ปลอดภัย และยั่งยืนสำหรับอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และธัญพืชนายเซบาส วาน เด็น เอ็นเดอ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท วิคแทม อินเตอร์เนชัลแนล กล่าวเราขอเรียนเชิญผู้แสดงสินค้า ผู้เข้าชมงาน และสื่อมวลชนทุกท่านมาร่วมกันที่กรุงเทพฯ เพื่อสัมผัสนวัตกรรม เชื่อมต่อกับผู้นำระดับโลก และร่วมกันกำหนดอนาคตของอุตสาหกรรมโภชนาการสัตว์และการผลิตอาหารในเอเชีย



นอกจากนี้ สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย (TFMA), สมาคมโรงสีข้าวไทย (TRMA), สมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ไทย (TPIA) และสมาคมพันธมิตรอื่น ได้ประกาศความร่วมมือกับผู้จัดงานในการจัดสัมมนาเชิงเทคนิคว่าด้วยความปลอดภัยของอาหารสัตว์ การจัดการพลังงาน และการผลิตที่ยั่งยืน



ด้านนายสมภพ เอื้อทรงธรรม เลขาธิการสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย กล่าวว่าเราขอเชิญชวนสมาชิกทุกท่านเข้าร่วมงาน VICTAM Asia 2026 เพื่อเปิดรับนวัตกรรมใหม่ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ งานนี้คือเวทีที่เปลี่ยนองค์ความรู้ให้กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจ และขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ไทยสู่อนาคตอย่างยั่งยืน



ด้วยการมุ่งเน้นนวัตกรรม การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และการพัฒนาทางธุรกิจ VICTAM Asia 2026 ที่เป็นเวทีที่มอบโอกาสให้กับบริษัทต่าง ในการแสดงเทคโนโลยีล่าสุด สร้างเครือข่ายกับผู้นำในอุตสาหกรรม และขยายศักยภาพทางการตลาด พร้อมตอกย้ำบทบาทของกรุงเทพฯ ในฐานะศูนย์กลางเทคโนโลยีและการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรอาหารของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก


ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าชมงานฟรีได้ที่ https://register.visitcloud.com/survey/11ogbc7olrzmq

วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

มกอช. ยัน “น้ำนมโคดิบไทย” มีคุณภาพและความปลอดภัย วางมาตรฐานการผลิตเข้มงวด เป็นที่ยอมรับในระดับสากล มีระบบตรวจสอบคุณภาพครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่ฟาร์มโคนมจนถึงศูนย์รวบรวมน้ำนม ก่อนถึงมือผู้บริโภค


นางกาญจนา แดงรุ่งโรจน์รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ(มกอช.) เปิดเผยถึงกรณีข่าวนม ไทยมีการปลอมปนนมผงไม่ได้มาตรฐานว่า มกอช. ในฐานะหน่วยงานหลักในการกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร ได้จัดทำ “มาตรฐานสินค้าเกษตร (มกษ.)” ที่เกี่ยวข้องกับน้ำนมโคดิบไว้อย่างครอบคลุม และยืนยันว่านมโคไทยได้มาตรฐาน เป็นที่ยอมรับในระดับสากล 

โดยมีระบบตรวจสอบคุณภาพครอบคลุมทุกขั้นตอนและมีคุณภาพดังนี้ มกษ. 6003-2553 : น้ำนมโคดิบกำหนดองค์ประกอบและคุณภาพของน้ำนมดิบจากฟาร์มก่อนเข้าสู่กระบวนการแปรรูป ครอบคลุมค่ามาตรฐานทางเคมี เช่น โปรตีน ไขมัน และเนื้อนมไม่รวมมันเนย รวมถึงเกณฑ์ความปลอดภัย เช่น จำนวนจุลินทรีย์ โคลิฟอร์ม และสารตกค้างให้อยู่ในระดับปลอดภัย

มกษ. 6402-2562 : การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มโคนม (GAP Dairy Farm) เป็นแนวทางการจัดการฟาร์มที่มุ่งให้ได้ผลผลิตน้ำนมคุณภาพสูง ตั้งแต่การดูแลสุขภาพโค การให้อาหาร การรีดนม การจัดเก็บ และการขนส่งน้ำนมอย่างถูกสุขลักษณะมกษ. 6401-2558 : การปฏิบัติที่ดีสำหรับศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบ (Good Practices for Raw Milk Collection Centers)

เป็นมาตรฐานบังคับ ควบคุมขั้นตอนการรับน้ำนม การตรวจคุณภาพ การลดอุณหภูมิ และการเก็บรักษา โดยกำหนดให้ต้องทำความเย็นไม่เกิน 4 องศาเซลเซียสภายใน 2 ชั่วโมงหลังรับน้ำนม และคงอุณหภูมิให้เหมาะสมตลอดการเก็บรักษา เพื่อชะลอการเจริญของจุลินทรีย์

ทั้งนี้ มกอช. ร่วมกับกรมปศุสัตว์ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตรวจสอบคุณภาพน้ำนมโคอย่างต่อเนื่อง หากน้ำนมไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานจะไม่นำเข้าสู่กระบวนการแปรรูป

มกอช. ย้ำให้ประชาชนมั่นใจในผลิตภัณฑ์นมโคของไทยที่ผ่านการรับรองตามมาตรฐานของรัฐ พร้อมเชิญชวนให้บริโภคนมอย่างเข้าใจ และเลือกรับข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เพื่อสุขภาพที่ดีในทุกช่วงวัย

วันพุธที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2568

"เขย่าวงการเกษตร! วิจัยใหม่โชว์ระบบให้น้ำแม่นยำ เพิ่มศักยภาพส่งออก ‘มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง’ ขอนแก่น–ชัยภูมิ"

ขอนแก่น-ชัยภูมิเกษตรกรไทยมีเฮ! เมื่อโครงการวิจัยสุดล้ำระบบการให้น้ำอย่างแม่นยำในสวนมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเพื่อการส่งออกเดินหน้าสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในภาคเกษตรกรรมไทย 



โดย รศ.ดร.พีระศักดิ์ ฉายประสาท ผู้ร่วมโครงการวิจัย จากคณะเกษตรศาสตร์ฯ มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมคณะ ได้จัดกิจกรรมลงพื้นที่อบรมเกษตรกรสองจังหวัดใหญ่ คือ ขอนแก่น และ ชัยภูมิ ระหว่างวันที่ 14 – 18 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา



กิจกรรมแรกจัดขึ้น กลุ่มวิสาหกิจชุมชนมะม่วงบ้านแฮด .ขอนแก่น ระหว่างวันที่ 14 – 15 .. โดยเน้นการเสริมองค์ความรู้ด้านการใช้สารเคมีทางการเกษตรป้องกันกำจัดแมลงเพื่อการส่งออกมะม่วงโดยผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ คุณสุเทพ สหายา นักวิชาการอิสระ อดีต ผอ.กลุ่มกีฏและสัตววิทยา กรมวิชาการเกษตร พร้อมด้วยเวิร์กช็อปการใช้โดรนทางการเกษตรที่เรียกเสียงฮือฮาจากเกษตรกรผู้เข้าร่วม


ต่อเนื่องด้วยกิจกรรมที่สอง กลุ่มสตรีสหกรณ์การเกษตรไม้ผลบ้านโหล่น .หนองบัวแดง .ชัยภูมิ วันที่  18 .. ภายใต้หัวข้อเร้าใจโอกาสใหม่ของเกษตรกรไทยในยุคดิจิทัลโดย รองศาสตราจารย์ ดร.ทิพรัตน์ สิทธิวงศ์ .นเรศวร ที่เปิดมุมมองใหม่ ในการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพช่องทางการตลาดแบบออนไลน์และการผลิต



โครงการวิจัยระบบให้น้ำแม่นยำฯ ครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณโดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ประจำปี 2568 ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านการเกษตรไทยให้ก้าวไกลอย่างเป็นรูปธรรม การผลักดันให้เกิดการพัฒนาระบบชลประทานในสวนมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองอย่างแม่นยำ นับเป็นก้าวสำคัญในการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และรักษาคุณภาพผลผลิตให้สอดคล้องกับมาตรฐานการส่งออกระดับสากล



การสนับสนุนของ วช. ไม่เพียงมุ่งเน้นด้านเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการเสริมสร้างองค์ความรู้ให้เกษตรกรไทยรู้จักปรับตัว พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล ทั้งในด้านการจัดการศัตรูพืช การใช้สารเคมีอย่างถูกต้อง ไปจนถึงการใช้โดรนเกษตรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการทำเกษตร


โครงการนี้จึงไม่เพียงสร้างผลลัพธ์ในระดับพื้นที่ แต่ยังจุดประกายแนวคิดการพัฒนาเกษตรกรรมไทยสู่ “Smart Farming” อย่างยั่งยืนในระยะยาว พร้อมเปิดประตูมะม่วงไทยสู่ตลาดโลกอย่างมั่นคง แข่งขันได้ในเวทีการค้าโลกอย่างภาคภูมิ

วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2568

ARDA AGRINEXT THAILAND 2025 ปิดฉากยิ่งใหญ่! หลังขน 100 ผลงานวิจัย พลิกอนาคตเกษตรไทย โชว์ใจกลางกรุงเทพฯ

 


งานมหกรรมวิจัยและนวัตกรรมการเกษตรแห่งปี “ARDA AGRINEXT THAILAND 2025” ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์แบบ ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความภาคภูมิใจ โดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ ARDA จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25–28 กันยายน 2568 ณ อิมแพค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด“นวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะ : พลิกโฉมการเกษตรไทยสู่ความยั่งยืนและการแข่งขันในเวทีโลก”

ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อำนวยการ ARDA เปิดเผยว่า ตลอด 4 วันของการจัดงาน มีผู้เข้าร่วมกว่า 10,000 คน และมีผู้ติดตามผ่านช่องทางออนไลน์นับล้านครั้ง งานนี้ไม่เพียงเป็นเวทีแสดงผลงานวิจัย แต่ยังพิสูจน์ว่างานวิจัยไทยสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้จริง โดยภายในงานมีตัวอย่างผลงานวิจัยเด่น อาทิ ปุ๋ยพลาสมาไนโตรเจน ที่ช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมีได้กว่า 50% ทำให้ต้นทุนผักสลัดเหลือเพียงกิโลกรัมละ 7–10 บาท โดรนกำจัดศัตรูมะพร้าวและเทคโนโลยีฉีดพ่นใต้ใบ ที่ช่วยลดความเสียหายและเพิ่มกำไรเกษตรกรได้ถึง 20% รวมถึง การเลี้ยงแมลงโปรตีน BSF ทางเลือกใหม่ในการผลิตอาหารสัตว์ ลดต้นทุนกว่า 50% และสร้างรายได้ต่อเนื่องกว่า 4 ล้านบาทต่อปี ผลงานเหล่านี้สะท้อนว่า งานวิจัยเกษตรไม่เพียงตอบโจทย์เชิงวิชาการ แต่ยังต่อยอดสู่ประโยชน์เชิงพาณิชย์และชุมชนได้จริง

เมื่อประเมินภาพรวมผลงานวิจัยของ ARDA จำนวน 3,042 โครงการ พบว่าสามารถสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจรวมแล้วกว่า 19,000 ล้านบาท ตอกย้ำให้เห็นว่าการลงทุนวิจัยของ ARDA นั้นเราไม่ได้หยุดอยู่ในห้องแล็บ
แต่เราให้ความสำคัญกับการขยายผลสู่เศรษฐกิจฐานราก เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตเและเพิ่มขีดความสามารถให้กับเกษตรกรไทยได้พร้อมรับมือกับการแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมั่นใจ

“ARDA ขอขอบคุณเครือข่ายพันธมิตร หน่วยงานภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา และเกษตรกรทุกท่านที่ร่วมให้การสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้ แน่นอนว่าความสำเร็จของงาน ARDA AGRINEXT THAILAND 2025
นอกจากจะสะท้อนศักยภาพงานวิจัยไทยที่พร้อมเชื่อมโยงสู่การใช้ประโยชน์ได้จริง ทั้งด้านเศรษฐกิจ ชุมชน และนโยบาย ยังเป็นพลังสำคัญที่ในการขับเคลื่อนเกษตรไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืนต่อไป” ดร.วิชาญ กล่าวทิ้งท้าย

VICTAM Asia 2026 กลับมาเยือนกรุงเทพฯ อีกครั้ง !! งานแสดงอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ สุขภาพสัตว์ และเทคโนโลยีการสีข้าว

วันที่ 14 พฤศจิกายน : งาน VICTAM Asia 2026 ผนึกกำลัง VIV Health & Nutrition Asia และ GRAPAS Asia 2026 เตรียมกลับมาเปิดงานแสดงสินค้า...