วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

“อาหารปลอดภัยในโรงเรียน” กับ “คุณภาพชีวิตเด็กไทย” บริบทใหม่ (Next Normal) บนความท้าทายของ...โรงเรียน

          สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลให้ผู้คนทั่วโลกหันมาใส่ใจและให้ความสำคัญกับสุขภาพอนามัยร่างกายมากขึ้น ประกอบกระแสของเทรนด์การดูแลสุขภาพที่กำลังมาแรง ทำพฤติกรรมของผู้บริโภคหันมาใส่ใจกับการเลือกซื้อสินค้าและอาหารที่ปลอดภัย ปลอดสารมากขึ้น สบช่องให้สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร(มกอช.) เร่งเดินหน้าขับเคลื่อนสร้างเครือข่ายโครงการอาหารปลอดภัยในโรงเรียน (Q Canteen) อย่างหนักหน่วงในปี 2563 เพื่อสร้างการรับรู้และพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชนไทย เนื่องจากตระหนักว่าการดูแลสุขภาพอนามัยนั้นเป็นบริบทใหม่(Next  Normal) ของผู้บริโภคในสังคมปัจจุบัน โดยมกอช.ได้เริ่มโฟกัสไปยังนักเรียนผ่านอาหารที่บริโภค เนื่องจากมองว่าเยาวชนไทยจะเติบโตอย่างมีคุณภาพได้จะต้องเริ่มต้นจากการบริโภคอาหารที่ได้มาตรฐานปลอดภัย ไร้สารตกค้าง  ประกอบกับแนวความคิดที่เห็นว่าโรงเรียนน่าจะเป็นตลาดสำคัญที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เองจะสามารถเข้าไปเพิ่มช่องทางการตลาดสินค้าเกษตรและอาหารให้กับเกษตรกรไทยได้ 

            โดยนายกฤษ อุตตมะเวทิน เลขานุการกรม ในฐานะรองโฆษก สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ(มกอช.) กล่าวว่า การจัดตั้งโรงอาหารปลอดภัยหรือเรียกง่ายๆว่า Q canteen ขึ้นในสถานศึกษานั้น เพื่อเป็นแหล่งจำหน่าย แหล่งประกอบอาหารที่ได้มาตรฐาน สำหรับการสร้างความมั่นใจให้นักเรียนและผู้ปกครอง รวมถึงสถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ สำหรับแนวทางในการดำเนินการ ในช่วงนำร่องโครงการมกอช.จะชวนให้โรงเรียนเอกชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเข้าร่วมโครงการ Q Canteen ตามความสมัครใจ ซึ่งโรงเรียนเอกชนผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะทำหน้าที่สร้างความเข้าใจให้แก่บุคลากรของโรงเรียน นักเรียน ผู้ปกครอง และผู้ประกอบการอาหารในโรงเรียน ให้เข้าใจในเรื่องการผลิตและบริโภคอาหารปลอดภัย

       สำหรับความคืบหน้าของโครงการนั้น นายกฤษ กล่าวว่า ในปี 2563 ที่ผ่านมา มกอช.ได้ดำเนินการคัดเลือกโรงเรียนเอกชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯนำร่องแล้วจำนวน 16 โรงเรียนและในจำนวนดังกล่าวได้ยกระดับเป็นโรงเรียนต้นแบบ Q Canteen จำนวน 4 โรงเรียน ได้แก่  1.โรงเรียนประสาทวิทยานนทบุรี 2.โรงเรียนสมาคมสตรีไทย 3.โรงเรียนผ่องสุวรรณวิทยา  และ 4 โรงเรียนบีคอนเฮาส์แย้มสะอาดรังสิต  โดยมกอช.จะเข้าไปส่งเสริมให้โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการเลือกใช้วัตถุดิบสินค้า Q หรือ GAP สินค้าเกษตรปลอดภัยที่ได้รับการรับรองต่างๆ หรือสินค้าตามสอบย้อนกลับได้เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารในโรงอาหารในสินค้าหลัก ได้แก่ ข้าว ไข่ ไก่ ผัก ปลา และเนื้อสัตว์ พร้อมสนับสนุนรายชื่อแหล่งผลิตหรือผู้ประกอบการสินค้า Q หรือ GAP รวมทั้งเกษตรอินทรีย์แก่ผู้ประกอบการอาหารในโรงเรียน สนับสนุนสื่อการเรียนรู้ด้านอาหารศึกษาและอาหารปลอดภัย ตลอดจนร่วมจัดกิจกรรมของโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ “สำหรับความมั่นใจในโครงการ Q Canteen  ของโรงเรียนและผู้ปกครองนั้น  คงหนีไม่พ้นเรื่องแหล่งที่มาของสินค้า วัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหาร ทางมกอช.ได้ทำการคัดเลือกผู้ประกอบธุรกิจที่มีแหล่งวัตถุดิบ แหล่งผลิตจากฟาร์มมาตรฐาน GAP ปลอดภัย เพื่อนำมาประกอบและปรุงอาหารให้แก่นักเรียน

          พร้อมทั้งให้การแนะนำและถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับโรงเรียนในการเลือกซื้อสินค้าเกษตรและอาหาร เช่น พืชผัก ไข่ เนื้อสัตว์ที่ใช้สำหรับเป็นวัตถุดิบอาหารให้เด็กในโรงเรียนรับประทาน จะสั่งมาจากฟาร์มที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน GAP หรือร้านค้า ที่สามารถตามสอบแหล่งผลิตดได้ หรือ ผ่านการรับรอง “เครื่องหมาย Q” ซึ่งเป็น เป็นเครื่องหมายที่สร้างความเชื่อมั่นในการเลือกซื้อสินค้าแก่ผู้บริโภคมีความปลอดภัยตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ เพื่อให้เด็กและเยาชนไทยได้บริโภคอาหารที่ปลอดภัย ไร้สารตกค้างนำไปสู่สุขภาพที่แข็งแรงและคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต”  นายกฤษ กล่าว

          ด้านนางสาวกัญกรณ์ นุ่มอ่อน หัวหน้าฝ่ายบริหารทั่วไป โรงเรียนประสาทวิทยานนทบุรี หนึ่งในโรงเรียนต้นแบบโครงการ Q Canteen  กล่าวว่า   โรงเรียนได้เล็งเห็นเรื่องสุขภาพอนามัยของนักเรียนเป็นเรื่องสำคัญ โดยที่ผ่านมาได้จัดทำโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพเพื่อดูแลทั้งสุขภาพอนามัยของเด็ก โยงไปถึงในเรื่องการบริโภค อาหารที่ถูกถูกอนามัย  สุขลักษณะจึงได้เข้าโครงการ Q Canteen กับมกอช.เนื่องจากเป็นโครงการที่ตอบโจทย์นโยบายของโรงเรียน เพราะเราเชื่อมั่นว่าหากเข้าร่วมโครงการแล้วสิ่งที่เด็กจะได้รับคือการได้บริโภคอาหารที่มีความปลอดภัยตั้งแต่เล็กๆรับรองได้ว่าสมอง ความคิดของเด็กๆจะสามารถแตกยอดได้ดีมากๆและร่างกายก็แข็งแรงขึ้น ส่วนประโยชน์ที่ผู้ปกครองได้รับคือ มีความไว้วางใจว่าบุตรหลายของพวกเขาได้รับการดูแลเอาใจใส่ทั้งทางด้านคุณภาพวิชาการและคุณภาพชีวิตของลูกๆ เมื่อเขาจบการศึกษาจากโรงเรียนนี้ไปผู้ปกครองมั่นใจได้ว่าลูกจะมีสุขภาพที่ดี มีร่างกายที่แข็งแรงและพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ ด้านจิตใจและด้านสติปัญญา ดีขึ้นอย่าแน่นอน

          ด้านนางสาวดวงใจ ตระกูลช่าง ผู้ได้รับใบอนุญาตโรงเรียนในเครือบีคอนเฮาส์แย้มสอาด อีกหนึ่งโรงเรียนต้นแบบ  Q Canteen  กล่าวว่า   โครงการ Q Canteen ถือเป็นโครงการที่สอดคล้องกับนโยบายของคณะกรรมการสถานศึกษา ซึ่งมีความคิดตจะทำอย่างไรที่ส่งเสริมให้เด็กๆได้บริโภคอาหารที่ปลอดสารพิษ ซึ่งที่ผ่านทางโรงเรียนจะสั่งจากร้านตัวแทนจำหน่ายหลายๆร้านรวมกัน และมักพอเจอคุณภาพของผลไม้หรือพืชผักไม่ได้คุณภาพ ต้องเฉือนทิ้งจำนวนมาก แต่หลังจากได้ร่วมโครงการQ Canteen เราเหลือเศษอาหารน้อยลง จึงทำให้โรงเรียนเรามีความมั่นใจว่าทางกลุ่ม Q Canteenดูแลเอาใจใส่ผู้ผลิตแล้วนำมาส่งเสริมผู้ประกอบการอย่างพวกเราได้ดีเยี่ยม ซึ่งในการจัดเมนูอาหารของนักเรียนในแต่ละวันของนักเรียน เราจะคัดสรรดูแลเรื่องวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ในส่วนของการผลิตเราจะดูแลควบคุมให้ถูกสุขลักษณะของนักเรียน ที่เราดูแลในเรื่องพวกนี้คือเราตระหนักถึงสุขภาพของนักเรียนต้องได้รับอาหารที่เหมาะสมและก็ถูกต้องตามหลักโภชนาการ

          ด้านนางสาวปดิวรัดา ผ่องสุวรรณ ผู้อำนวยการโรงเรียนผ่องสุวรรณวิทยา   นับเป็นอีกหนึ่งในโรงเรียนต้นแบบ Q Canteen กล่าวว่า โรงเรียนของต้องการที่จะส่งเสริมให้เด็กได้ทานอาหารที่ปลอดสารไม่ว่าจะเป็นสารพิษ สารตกค้าง หรือสารเร่งเนื้อแดงในเนื้อไก่หรือเนื้ออื่นๆ โรงเรียนจึงได้เข้าไปดูแหล่งผลิตและดูฟาร์มเพื่อเป็นความมั่นใจสำหรับโรงเรียนในการเข้าร่วมโครงการ สำหรับการเลือกวัตถุดิบ เราจะคัดเลือกจากรายการอาหารที่ทางกลุ่ม Q Canteen ได้ส่งรายการมาให้ ซึ่งวัตถุดิบที่ได้รับมีคุณภาพสดใหม่ มีมาตรฐานในการแพ็คเก็จจิ้งมาเป็นอย่างดี

          ด้านนางสุภาภรณ์ ทองดี ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบีคอนเฮาส์แย้มสอาด กล่าวว่า การที่โรงเรียนเข้าร่วมโครงการ Q Canteen ทำให้รู้สึกมีความเชื่อมั่นในอาหารที่โรงเรียนนำมาให้ลูกรับประทานวัตถุดิบทำให้อาหารมีความสะอาด ปลอดภัยในการบริโภคมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่ผู้ปกครองทุกคนวิตกกังวลคือมักจะมีข่าวเด็กทานอาหารกลางวันที่โรงเรียนอื่นๆแล้วเกิดท้องเสียบ่อยๆ ซึ่งไม่ใครอยากให้เกิดกับโรงเรียนที่ลูกเราเรียน ซึ่งการที่โรงเรียนเข้าร่วมโครงการนี้จะทำให้พ่อแม่เพิ่มความเชื่อมั่นและมั่นใจในคุณภาพมาตรฐานด้านอาหารในโรงเรียนมากยิ่งขึ้น และมีประโยชน์ต่อร่างกายและเป็นอาหารที่ได้คุณภาพและมาตรฐาน ปราศจากสารตกค้าง มีความปลอดภัยในการรับประทานและรู้สึกสบายใจที่ลูกได้อยู่ในโรงเรียนดูแลเอาใจใส่ลูกเราเป็นอย่างดีตั้งแต่การกิน การอยู่และการสอนและจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ด้านคุณภาพและมาตรฐานของโรงเรียนมากยิ่งขึ้นไปอีก  

          ด้านนางภัทรภร ทองแพ ผู้ปกครองโรงเรียนผ่องสุวรรณวิทยา กล่าวว่า    หลังจากโรงเรียนได้แจ้งในวันประชุมผู้ปกครองว่าทางโรงเรียนได้เข้าร่วมโครงการและจะมีหน่วยงานจากกระทรวงเกษตรมาคอยให้คำแนะนำฟาร์มและร้านค้าที่ได้มาตรฐานและมาให้ความรู้แก่เด็กๆเกี่ยวกับการมาตรฐานพืชผักและเนื้อสัตว์ ทำให้ผู้ปกครองรู้สึกมั่นใจในอาหารที่ทางโรงเรียนจัดให้ ลูกๆได้รับการดูแล เอาใจเรื่องสุขภาพดีทั้งที่บ้านและในโรงเรียนทำให้ผู้ปกครองรู้สึกประทับใจอย่างมาก เพราะมองว่าโรงเรียนที่ดีต้องใส่ใจนักเรียนในทุกๆด้าน และที่ประทับใจไปกว่านั้นคือลูกของตนนำมาปรับใช้ที่บ้านด้วย จะคอยถามผักซื้อมาจากไหน สะอาด ปลอดสารหรือไม่จะกลับมาแนะนำพ่อแม่ต่อ

          โครงการอาหารปลอดภัยในโรงเรียนหรือ Q Canteen จึงถือเป็นบริบทใหม่ ภายใต้ Next Normal ที่กระแสความตื่นตัวในการใส่ใจสุขภาพเข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคและทัศนคติในการเลือกบริโภคสินค้าเกษตรและอาหารที่มีมาตรฐานความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เป็นโจทย์หนักให้โรงเรียนต่างๆต้องเร่งปรับตัวตามให้ทันเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและยอมรับในด้านการดูแลสุขภาพอนามัยของนักเรียนนอกเหนือจากการมีหลักสูตรการเรียน การสอนที่แต่ละโรงเรียนได้มาตรฐานอยู่แล้ว เพื่อก้าวให้เท่าทันกระแสการเปลี่ยนแปลงของสังคมผู้บริโภค

          โรงเรียนใดสนใจที่จะเข้าร่วมโครงการ  สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเลขานุการกรม  สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) โทรศัพท์: 0-2561-2277,โทรสาร:0-2561-2096 ได้ในเวลาราชการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น