วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2563

"สุริยะ" ดึงกสอ.เปิดคอร์สระยะสั้นผลิตผ้ามัดย้อม ลงพื้นที่ชุมชนบางแคเพิ่มรายได้-สร้างอาชีพใหม่

          เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563  “สุริยะ” นำทัพ กสอ. ลงพื้นที่ช่วยชุมชนบางแค เปิดคอร์สฝึกอบรม “การพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์ : การทำผ้ามัดย้อม เพิ่มทักษะ พัฒนาผลิตภัณฑ์  เข้าสู่ตลาด  สร้างโอกาส สร้างอาชีพ ลดปัญหาว่างงานจากภัยโควิด 19   กิจกรรมได้รับการตอบรับเกินคาด ประชาชนแห่เข้าอบรมกว่า 300 คน มั่นใจสร้างรายได้เพิ่มให้ชุมชนปีละกว่า 18 ล้านบาท พร้อมขับเคลื่อนโครงการในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ



            นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในพิธีเปิดงาน “ฝึกทักษะอาชีพ สร้างรายได้ กระจายโอกาสสู่ชุมชน หลักสูตร “การพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์ : การทำผ้ามัดย้อม” ว่า กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ได้จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นเพื่อส่งเสริมและพัฒนาอาชีพให้กับชุมชนตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มุ่งเน้นการช่วยเหลือทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งธุรกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) รวมถึงชุมชนต่างๆ โดยครั้งนี้ กสอ. ได้นำหลักสูตรของโครงการ “การพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์ : การทำผ้ามัดย้อม เป็นหลักสูตรระยะสั้นให้กับชุมชนในพื้นที่บางแค เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากการว่างงาน เป็นการลดความเหลื่อมล้ำทางด้านเศรษฐกิจให้กับประชาชน ตามแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ 



            “ โควิด -19 กระทบต่อทุกภาคส่วนทำให้หลายครอบครัวไม่สามารถประกอบอาชีพ หรือหารายได้ได้ตามปกติ ทำให้ขาดรายได้ในการดำรงชีพ การเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว ประชาชนบางส่วนจึงต้องกลับภูมิลำเนา แรงงานในระบบถูกเลิกจ้างเหล่านี้รัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ จึงร่วมกันหาแนวทางการรับมืออย่างเร่งด่วน เพื่อเพิ่มรายได้   เพิ่มการจ้างงานในชุมชน  กสอ.เองได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 90 วันที่ผ่านมา ได้ให้กสอ

ช่วยเหลือ ผู้ประกอบการ ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ชุมชน และภาคเกษตรอุตสาหกรรม โดยได้ใช้งบประมาณกว่า 150 ล้านบาท ที่สามารถฟื้นฟูกิจการได้ถึง 4,300 กิจการสร้างผู้ประกอบการและฝึกอาชีพให้กับพี่น้องประชาชน 10,000 คน ให้มีรายได้ และช่วยรักษาอัตราการจ้างงาน 100,000 คน  ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการช่วยเหลือภาคธุรกิจทั้งขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมถึงชุมชน ให้สามารถนำองค์ความรู้ที่ได้จากการฝึกอบรมไปต่อยอดสร้างรายได้ และมีอาชีพเสริมจากการพัฒนาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์” นายสุริยะ กล่าว

            ทั้งนี้ กสอ. ได้เปิดให้มีการฝึกอบรมเชิงปฎิบัติในหลักสูตรการทำผ้ามัดย้อม โดยผู้เชี่ยวชาญจากอุตสาหกรรมการย้อมผ้าที่เข้ามาเสริมทักษะพัฒนาอาชีพให้กับชุมชน เนื่องจากการทำผ้ามัดย้อมเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์ด้วยฝีมือและสามารถหาวัตถุดิบได้ง่ายและสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยการนำเทคนิคการมัดย้อม เพื่อสร้างลวดลาย ในรูปแบบเป็นที่นิยมของตลาดไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า  ผ้าเช็ดหน้า ผ้าปูโต๊ะ ซึ่งปัจจุบันตลาดมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีประชาชนพื้นที่แขวงบางไผ่ เขตบางแค และพื้นที่ใกล้เคียง จำนวน 300 คนเข้าร่วมฝึกอบรม  ที่อาคารฝึกอบรมวัดพรหมสุวรรณสามัคคี เขตบางแค ซึ่งคาดว่าในการจัดกิจกรรมอบรมหลักสูตรครั้งนี้ จะมีส่วนสำคัญต่อการสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนเป็นเม็ดเงิน ราว 1.5 ล้านบาทต่อเดือนหรือคิดเป็นกว่า 18 ล้านบาทต่อปี เกิดการหมุนเวียนทางระบบเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง



             พร้อมกันนี้ กสอ. ยังได้เปิดหน่วยเคลื่อนที่ (โมบายยูนิต)ของ ศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Thailand Industrial Design Center : Thai-idc )   และ จุดให้บริการเงินทุนหมุนเวียน เพื่อเปิดโอกาสให้กับกลุ่มชุมชน วิเอสเอ็มอี รวมถึงผู้ว่างงานที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด  19 ทั้งนักศึกษาและประชาชนทั่วไป สามารถเข้าขอรับคำปรึกษาเพื่อการวางแผนพัฒนาอาชีพ การประกอบการอื่นๆ นอกเหนือจากกิจกรรมอบรมทำผ้ามัดย้อม เพื่อไปต่อยอดไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองให้เป็นที่ยอมรับของตลาดมากยิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา กสอ. ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวไปแล้ว ผ่านศูนย์ภาคที่มีอยู่ทั่วประเทศไปแล้ว 4 ครั้ง ทั้งภาคเหนือ ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพฯ

           นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า  "ในการเข้ามาส่งเสริมการฝึกอาชีพในพื้นที่ชุมชนบางแค ถือเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญเนื่องจากมีสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ทำให้มีจำนวนผู้ว่างงานจำนวนมาก  ดังนั้นการเข้ามาจัดกิจกรรมเพื่อการฝึกอบรม ครั้งนี้ถือเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล  ช่วยสร้างโอกาสด้านรายได้และอาชีพให้กับชุมชน เพื่อเป็นการยกระดับเศรษฐกิจฐานราก รวมถึงเป็นการกระตุ้นให้เกิดผู้ประกอบการรายใหม่ในระบบเศรษฐกิจของประเทศ เชื่อมั่นว่าโครงการจะเป็นแนวทางในการสร้างส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะยาว เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ชุมชนต่างๆอย่างต่อเนื่อง”

























ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น