วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2563

“ครูกัลยา” ลงพื้นที่วิทยาลัยเกษตรฯ ร้อยเอ็ด เปิดอบรมโครงการบริหารจัดการน้ำ สร้างนักเรียน 5 วิทยาลัยฯ นำร่อง 87 คน ติวเข้ม สร้าง “ชลกร” ขับเคลื่อน 8 กิจกรรมจัดการน้ำใต้ดิน พร้อมขยายผลสู่ชุมชน

 


 


            คุณหญิงกัลยา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และภูมิสรรค์ที่ปรึกษารัฐมนตรี พร้อมคณะลงพื้นที่วิทยาลัยเกษตรร้อยเอ็ด เปิดอบรมโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ดึงนักเรียน 5 วิทยาลัยฯ นำร่อง จำนวน 87 คน ติวเข้ม สร้าง ชลกรถ่ายทอดหลักสูตรบริหารจัดการน้ำ พร้อมขยายผลสู่ชุมชน เร่งแก้ปัญหาภัยแล้ง แก้จน

 



ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ที่ปรึกษารัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เเละนโยบาย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช) ลงพื้นที่เปิดโครงการอบรมการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชุน ตามแนวพระราชดำริ ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ด ระหว่างวันที่ 26-27 สิงหาคม 2563 โดยมีผู้เข้าอบรมจากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีทั้ง 5 แห่ง ได้แก่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ด มหาสารคาม ยโสธร ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี จำนวนรวมทั้งสิ้น 87 คน

 


สำหรับวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีทั้ง 5 แห่งนี้ ได้รับงบประมาณสนับสนุนในการจัดทำธนาคารน้ำใต้ดิน และบุคลากรได้รับความรู้ตามโครงการอบรมการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ซึ่งจะช่วยให้สถานศึกษาสามารถบริหารจัดการน้ำได้ด้วยตนเอง ในขณะเดียวกัน ครู นักเรียนนักศึกษา หน่วยงานภาครัฐและชุมชน จะเป็นผู้มีความรู้ เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการน้ำ สามารถนำความรู้ไปขยายผลในสถานศึกษา รวมทั้งขยายผลสู่ชุมชนได้ เพื่อช่วยให้ชุมชนมีน้ำเพียงพอต่อการทำการเกษตรตลอดทั้งปี และยังสามารถป้องกันปัญหาน้ำท่วมในช่วงหน้าฝนได้อีกด้วย

 



ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า น้ำเป็นหนึ่งในทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญมาก เปรียบเสมือหัวใจหลักในด้านการเกษตรและเป็นหัวใจหลักสำหรับทุกชีวิตบนโลก การบริหารจัดการน้ำให้มีความเหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของภาคส่วนต่าง ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในภาคการเกษตรยิ่งมีความจำเป็นอย่างมาก ถ้าหากขาดน้ำ การทำการเกษตรและงานฟาร์มต่าง ๆ ย่อมเสียหายและไม่ได้ผลเป้าหมายที่วางไว้ ดังนั้นนักเรียนที่เข้ารับการอบรม โดยเฉพาะนักเรียนที่เป็นชลกรจะเป็นกำลังสำคัญในการบริหารจัดการน้ำในชุมชนในอนาคตต่อไป โดยชุมชนต้องมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของ ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาเรื่องน้ำได้อย่างยั่งยืน

 



สำหรับโครงการดังกล่าว จะดำเนินการจัดธนาคารน้ำใต้ดิน ซึ่งประกอบด้วย 8 กิจกรรม ได้แก่ 

1. ขุดบ่อธนาคารน้ำใต้ดินระบบปิด ขนาด 1x1x1 เมตร จำนวน 1,500 บ่อ  

2. ขุดบ่อธนาคารน้ำใต้ดินระบบปิด ขนาด 2x2x2 เมตร จำนวน 100 บ่อ 

3. ขุดบ่อธนาคารน้ำใต้ดินระบบปิดด้วยการเจาะ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 60 เซนติเมตร ลึก 3 เมตร จำนวน 300 บ่อ 

4. ขุดบ่อระบบเปิด (บ่อใหม่) จำนวน 2 บ่อ 

5. แก้ไขบ่อน้ำเก่าให้เป็นบ่อธนาคารน้ำใต้ดิน จำนวน 7 บ่อ 

6. ขุดลอกบ่อน้ำเก่า จำนวน 14 บ่อ 

7. ขุดบ่อมหัศจรรย์ทูอินวัน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เมตร ลึก 12 เมตร จำนวน 13 บ่อ และ 

8. ห้องปฏิบัติการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ

 





พร้อมกันนี้ ดร.คุณหญิงกัลยา ได้ตรวจเยี่ยม โรงเรียนขี้เหล็กเขียวไพรวัลย์วิทยา ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าที่มีสภาพแวดล้อมเป็นธรรมชาติที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ด้วยพรรณไม้นานาชนิด รวมทั้งอาหารจากป่า เช่น เห็ดธรรมชาติ ซึ่งขณะนี้กำลังถึงฤดูออกดอก แม้โรงเรียนฯ จะตั้งอยู่กลางธรรมชาติแต่ทางโรงเรียนแห่งนี้ก็ยังขาดแคลนในเรื่องของระบบน้ำในการทำการเพาะปลูก และทำการเกษตรแบบครบวงจร  การตรวจเยี่ยมครั้งนี้ทำให้ได้รับทราบโครงการบริหารจัดการน้ำ การจัดทำบ่อเติมน้ำใต้ดินระบบปิดจากนายวิจิตร นนทะภา ผู้ใหญ่บ้าน และทีมชลกรจากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ด ที่นำหลักสูตรชลกรมาขยายผลสู่ชุมชนและสถานศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์ของโครงการดังนี้

    1.เพื่อให้คณะครู นักเรียน มีความรู้ความเข้าใจในระบบบริหารจัดการน้ำ การเติมน้ำใต้ดินระบบปิดและนำไปใช้ชีวิตประจำวัน

    2.เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ว ให้มีน้ำใช้ในการเกษตรกรรม

    3.เพื่อให้ประชาชนทั่วไปนำระบบเติมน้ำใต้ดินไปใช้ในที่ทำการเกษตรของตนเองให้เกิดประโยชน์สูงสุด



             นอกจากนี้ ทางโรงเรียนฯ ได้นำแนวทางพระราชดำริหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาบูรณาการในการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะกิจกรรมการถอดบทเรียนปลูกฝังให้นักเรียนเป็นคนดี คนเก่ง และอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างสงบสุข เป้าหมายของโรงเรียนที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การร่วมมือร่วมใจของคณะครูและชุมชน เพื่อให้โรงเรียนเป็นศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงอีกด้วย  



ถึงแม้ว่าโรงเรียนฯ จะอยู่ในพื้นที่สภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ แต่การจัดการเรียนการสอนถือว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง คณะครูทุกท่านได้ทุ่มเทอบรมสั่งสอนลูกศิษย์จนได้คะแนน O-Net สูงขึ้น และ คะแนน NT ป.3 มีนักเรียนทำคะแนนได้เต็ม 100 คะแนน คือ เด็กหญิงกวินธิดา นนทะภา ครูผู้สอนคือ นางวิไลลักษณ์ โคตรโยธา


ดร.คุณหญิงกัลยา ได้กล่าวทิ้งท้ายเป็นกำลังใจแก่ครู อาจารย์ และนักเรียนทุกคน ในการที่จะร่วมกันสร้างนักเรียนที่ดี และมีคุณภาพ เพื่อเป็นคนดีของสังคมในภายหน้าต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น