วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2564

เนื้อสัตว์-อาหารทะเลไทย สด สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน GMP-GAP


อุบัติการณ์โรคระบาดในปี 2563 เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในคนและในสัตว์ เช่น โรคไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ที่ระบาดในคน ซึ่งการแพร่ระบาดของโรคนี้ รอบใหม่ มาไว กระจายไว กลายพันธุ์ไว แต่อาจไม่จบไว ตามความเห็นของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านที่ประเมินสถานการณ์ไปในทิศทางเดียวกันว่า อาจกินเวลาไม่น้อยกว่า 2 เดือน เท่าๆกับ รอบแรก ขณะที่โรคระบาดในสัตว์ เช่น แอฟริกาสไวน์ฟีเว่อร์ และโรค PRRS หรือ เพิร์ส ที่เกิดในสุกรและแม้ทั้งสองโรคนี้จะไม่ติดต่อสู่คน ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการบริโภคอาหารของประชาชนพฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนไปสู่การกินเพื่อสุขภาพ เลือกสรรอาหารปลอดภัยจากแหล่งต้นทาง และบริษัทผู้ผลิตที่ได้การรับรองมาตรฐานสากล

นอกจากกำหนดมาตรการปัองกันโรคที่เคร่งครัดแล้ว ภาครัฐ หน่วยงานสาธารณสุข นักโภชนาการ และภาคเอกชน ยังต้องร่วมมือกันเรียกความมั่นใจของผู้บริโภค ในการบริโภคเนื้อสัตว์ เช่น ไก่ หมู ไข่ และอาหารทะเล เช่น กุ้ง ปู ปลา ว่าเป็นอาหารที่บริโภคได้อย่างปลอดภัย มาจากการผลิตซึ่งผ่านการตรวจสอบและรับรองโดย กรมปศุสัตว์ ทั้งมาตรฐานการปฏิบัติที่ดีในการผลิตอาหาร ซึ่งเป็นระบบประกันคุณภาพเพื่อให้เกิดความปลอดภัย หรือ GMP (Good Manufacturing Practice) และ มาตรฐานภายใต้มาตรฐานการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี GAP (Good Aquaculture Practice) ของกรมประมง โดยผู้บริโภคควรนำไปทำความสะอาดก่อนปรุงอาหารทุกครั้ง และปรุงสุกตามหลักสุขอนามัย 


สำหรับบริษัทอาหารชั้นนำของไทยต่างให้ความสำคัญกับการผลิตตามมาตรฐานสากลและใช้เป็นมาตรฐานการผลิตเดียวกัน (Single Standard) เพื่อความปลอดภัยทางอาหาร สำหรับผู้บริโภคในประเทศและผลิตภัณฑ์ส่งออกไปต่างประเทศ ที่มีกระบวนการผลิตที่มีส่วนช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการรับผิดชอบต่อสังคม ตามแนวทางการผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ หนึ่งในผู้ผลิตอาหารไทยที่ได้รับการยอมรับในเวทีโลกทั้งกระบวนการผลิตและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ตระหนักดีถึงการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีกระบวนการผลิตที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ และตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่ทั้งธุรกิจสัตว์บกและธุรกิจสัตว์น้ำ โดยฟาร์มสุกร ไก่ ไก่ไข่ และกระบวนการผลิตได้การรับรองมาตรฐาน GMP และ มาตรฐานควบคุมดูแลความปลอดภัยในทุกกระบวนการผลิตอาหาร เพื่อป้องกันอันตรายและสิ่งปนเปื้อนในอาหาร ที่ผู้บริโภคอาจได้รับจากการบริโภคอาหาร หรือ HACCP (Hazard Analysis Critical Control Point) ตลอดจนนำแนวปฏิบัติสวัสดิภาพสัตว์สากล “หลักอิสระ 5 ประการ” มาประยุกต์ใช้ในฟาร์มเพื่อให้สัตว์มีสุขภาพดีและแสดงออกตามพฤติกรรมตามธรรมชาติ ควบคู่ไปกับวิสัยทัศน์ด้านการใช้ยาต้านจุลชีพอย่างมีความรับผิดชอบ ตามแนวทาง “สุขภาพหนึ่งเดียว” หรือ One Health ซึ่งเป็นการรวมแนวทางการปฏิบัติสุขภาพคน สุขภาพสัตว์และสุขภาพสิ่งแวดล้อมเข้าไว้ด้วยกันเพื่อนำสู่การมีสุขภาพที่ดีโดยองค์รวม


นอกจากนี้ ฟาร์มปศุสัตว์ของบริษัทฯยังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมีการบริหารจัดการให้ช่วยลดผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน ด้วยการติดตั้ง ไบโอก๊าซ โซล่าร์ฟาร์ม เพื่อผลิตพลังงานหมุนเวียนทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า ขณะที่ฟาร์มไก่เนื้อ ไก่ไข่และเป็ด มีการเฝ้าติดตามและสังเกตอาการป่วยเบื้องต้นและพฤติกรรมของสัตว์ตลอดเวลาด้วยระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) แบบ Real-Time เพื่อทำการรักษาและแก้ไขได้ทันต่อสถานการณ์ รวมถึงถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้กับเกษตรกรในโครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ของบริษัทฯ เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตทั้งตลอดห่วงโซ่คุณค่าทั่วโลก

ในส่วนของธุรกิจสัตว์น้ำ มีการคิดค้นนวัตกรรม 3 สะอาด ที่เน้นความสะอาดของพันธุ์ บ่อ และน้ำ เพื่อป้องกันโรค และนำระบบไบโอฟลอค (Bio-Floc) ซึ่งเป็นการเติมจุลินทรีย์ที่สามารถบำบัดสารละลายไนโตรเจนที่เกิดจากของเสียที่กุ้งขับถ่าย เทคโนโลยีระบบกรองน้ำทันสมัย (Ultra Filtration) มาใช้กรองน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้ว เพื่อหมุนเวียนกลับมาใช้เลี้ยงกุ้งมากกว่า 90% ควบคู่ไปกับการเลี้ยงตามหลักสวัสดิภาพสัตว์และความปลอดภัยทางชีวภาพในฟาร์ม (Biosecurity Farm) 

จากวัตถุดิบต้นทางที่สด สะอาด ปลอดภัย สู่กระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล และเทคโนโลยีทันสมัยระดับโลก เพื่อลดการสัมผัสมือให้น้อยที่สุด ส่งผลให้เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ภายใต้แบรนด์ ซีพี สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่การผลิต ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค ที่สำคัญผู้บริโภคควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และนักโภชนการในการปรุงเนื้อสัตว์ทุกชนิดให้สุก ไม่รับประทานอาหารดิบหรือไม่สุก เพื่อความปลอดภัยจากเชื้อโรค

แม้ รัฐบาลจะยังไม่มีประกาศปิดประเทศ (lockdown) เหมือนรอบแรก แต่การระบาดครั้งใหม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมไม่น้อย ทำให้ทั่วโลกยังไม่สามารถก้าวข้ามคำว่า “เศรษฐกิจตกต่ำ” ได้ และยังคงต้องเดินหน้าอย่างเข้มแข็งตามวิถีปกติใหม่ (New Normal) รักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) และ “ล็อกดาวน์” ตัวเอง ไว้กับหลักสุขอนามัยส่วนบุคคลที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ กินร้อน ช้อนกลาง อาหารปรุงสุก ออกนอกบ้านสวมหน้ากาก ล้างมือด้วยสบู่บ่อยๆ หลีกเลี่ยงโคจรไปในแหล่งชุมชนที่มีคนจำนวนมาก เหล่านี้เป็นต้น  เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ไทยรอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น