วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2563

เสมา 3 ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมการจัดการเรียนการสอนการศึกษาผู้พิการทางสายตา และเด็กพิเศษในพื้นที่ขอนแก่น

 



เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2563 นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ ตรวจราชการการจัดการเรียนการสอนด้านการศึกษา ของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ณ โรงเรียนการศึกษาคนตาบอดขอนแก่น และโรงเรียนเด็กพิเศษมารีย์นิรมล อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย นายสมเกียรติ  ตันดิลกตระกูล ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา นายพะโยม ชิณวงศ์ ประธานคณะทำงาน รมช.ศธ. นายธนาวัฒน์ วารีสมานคุณ หัวหน้าคณะทำงาน รมช.ศธ. นายชัยณรงค์  ป้องบ้านเรือ รองเลขาธิการ กช. และคณะทำงาน รมช.ศธ. โดยมี นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น  นายฐิตินันท์ แสงนาค ส.ส. เขต 1 ขอนแก่น ว่าที่ร้อยตรีเอกทินกร ศรีนาง ผู้แทนศึกษาธิการภาค 12 นางรัตนาภรณ์ วัฒนศัพท์ ประธาน ปส.กช.ขอนแก่น พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผู้กำกับการ สภ.เมืองขอนแก่น ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ และผู้แทนโรงเรียนเอกชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ


ดร.กนกวรรณ กล่าวว่า ต้องขอชื่นชม และขอขอบคุณคุณครู  ที่ดูและเด็กๆ ที่มีความบกพร้อม หรือความพิการ และพิการซ้ำซ้อน ต้องใช้ความอดทน และความพยายามเป็นอย่างมาก อีกทั้งเนื่องจากท่านทั้งหลายมีบทบาทสำคัญในการจัดการศึกษา และการยกระดับคุณภาพการศึกษาสำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ซึ่งที่ผ่านมาโรงเรียนเอกชนสามารถจัดการศึกษาได้อย่างมีคุณภาพช่วยแบ่งเบาภาระของภาครัฐในการจัดการศึกษาได้เป็นอย่างดี และดิฉันขอชื่นชมผู้บริหารและครูโรงเรียนเอกชนที่ช่วยกันพัฒนาการศึกษาในพื้นที่ เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีความพร้อมก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 อย่างรอบด้านทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสติปัญญาตามยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการในการขยายโอกาสการเข้าถึงบริการทางการศึกษาและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตเพื่อสร้างความเสมอภาคและความ  เท่าเทียมทางการศึกษานั้นสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนซึ่งเป็นหน่วยงาน  ที่มีหน้าที่กำกับดูแลและส่งเสริมโรงเรียนเอกชนหลายประเภทรวมถึงโรงเรียนประเภทการศึกษาพิเศษ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อดูแลและจัดการศึกษาให้เฉพาะนักเรียนที่มีความบกพร่องในแต่ละประเภทในระดับที่รุนแรงและไม่สามารถเรียนรวมกับเด็กปกติได้ (จำนวน 20 โรงเรียน) และโรงเรียนที่มีนักเรียนพิการเรียนรวม เป็นโรงเรียนที่จัดการศึกษาสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษซึ่งไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้มากนัก และเด็กปกติได้เรียนร่วมกัน เป็นการเปิดโอกาสให้เด็กที่มีความต้องการพิเศษได้พัฒนาตนเอง มีสังคมที่กว้างขึ้น และได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ครูและผู้ปกครองเพื่อเป็นประโยชน์ในการพัฒนาตนเอง (จำนวน 800 โรงเรียน) ได้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการโดยพัฒนาระบบการบริหารจัดการสถานศึกษาให้เป็นไปตามบริบทที่แตกต่างอย่างมีประสิทธิภาพและมาตรฐานพัฒนาศักยภาพการจัดการเรียนการสอนของครูผู้ดูแลเด็กพิการให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับเด็กแต่ละคนได้อย่างเหมาะสม




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น