วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2563

ปิดฉากงดงาม “OTOP ศิลปาชีพ” ผู้ประกอบการยิ้มยอดขายทะลุเป้า 484 ล้าน “อธิบดี พช.” ปลื้มความสำเร็จ ขอบคุณทุกฝ่าย ขอบคุณพี่น้องประชาชนช่วยอุดหนุน กินของไทย ใช้ของไทย เที่ยวเมืองไทย เติมพลังใจไทยฝ่าวิกฤติ สร้างรายได้สู่ชุมชน พลิกฟื้นเศรษฐกิจพ้นภัยโควิด-19 เสริมแกร่งชุมชนฐานรากให้กลับมามั่นคงยั่งยืน

 

เมื่อวันที่ 17 ส.ค.63 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) เปิดเผยว่า งาน “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี 2563” จัดระหว่างวันที่ 8 – 16 สิงหาคม ณ ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตลอด 9 วัน ได้รับความสนใจจากประชาชนเดินทางหลั่งไหลมาเที่ยวชมงานอย่างคึกคัก มีผู้เข้าชมงาน 161,099 คน รวมยอดขาย 484,925,033.50 บาท ทะลุเป้าที่ตั้งไว้ 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดจำหน่ายสินค้า OTOP ทั้ง 5 กลุ่ม ได้แก่ อาหาร เครื่องดื่ม ผ้าและเครื่องแต่งกาย ของใช้ของตกแต่งของที่ระลึก และสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร ตลอดจนผลิตภัณฑ์ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีทั่วเมืองไทย 76 จังหวัด และหน่วยงานเครือข่ายต่างๆ ที่เข้าร่วม โดยยอดจำหน่ายสินค้า OTOP กลุ่มผ้าและเครื่องแต่งกายจำหน่ายได้สูงสุดกว่า 141,656,209  บาท ขณะที่ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิศิลปาชีพฯ 20,886,488.50 บาท ผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิสายใจไทย 305,966 บาท ผลิตภัณฑ์บริษัทประชารัฐรักษามัคคีฯ 3,199,987 บาท ผลิตภัณฑ์จากสมาคมสภาคนพิการฯ 1,766,613 บาท และผลิตภัณฑ์ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี 56,448,440 บาท

ทั้งนี้ งาน “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี” โดยกรมการพัฒนาชุมชุน กระทรวงมหาดไทย จัดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2555 เพื่อสืบสานพระราชปณิธานงานศิลปาชีพ และเชิดชูอัตลักษณ์คุณค่าผ้าไทย รวมทั้งสนับสนุนอาชีพและเสริมสร้างรายได้ให้กระจายไปสู่ชุมชนทั่วประเทศ โดยงานปีนี้ได้นำผ้าที่ชนะการประกวดจากทั่วประเทศมาจัดแสดง และได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีความพิเศษของบูธนิทรรศการและจำหน่ายผ้าของแม่ครู 4 ทหารเสือศิลปาชีพ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ร่วมต่ออายุผ้าไทยพิชิตความยากจนด้วยการเป็นครูสอนทอผ้าไทยรุ่นแรก ทำให้ภูมิปัญญาการทอผ้ายังคงอยู่ยืนยาว สร้างกลิ่นอายให้คนรุ่นลูกหลานได้สัมผัสเสน่ห์ผ้าไทย รวมถึงผลิตภัณฑ์จากผ้าอัตลักษณ์ที่หาชมยาก การจัดจำหน่ายสินค้า OTOP ที่คัดสรรจากทั่วเมืองไทย การนำเรื่องราวของชุมชนท่องเที่ยวนวัตวิถีจาก 76 จังหวัด ให้เที่ยวชมครบจบในงานเดียว โดยผู้ประกอบการต่างกล่าวขอบคุณรัฐบาลที่สนับสนุนการจัดงานครั้งนี้ ให้นำสินค้ามาจำหน่ายโดยไม่มีค่าใช้จ่าย รวมทั้งทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต่างร่วมมือร่วมใจจัดงาน เพื่อสืบสานพระราชปณิธานงานศิลปาชีพ และหวังให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ให้เมืองไทยของเราเดินหน้าต่อไป ถือเป็นงานใหญ่ครั้งแรกของปีนี้หลังวิกฤติโควิด-19  โดยการจัดงานบริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ได้สนับสนุนเพิ่มพื้นที่ให้ฟรี 20,000 ตารางเมตร และมีการปฏิบัติตามข้อกำหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  อย่างเข้มงวดตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขทุกประการ 

“ความสำเร็จงดงามของงานครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณการสนับสนุนจากรัฐบาล ผู้ประกอบการ OTOP และศิลปิน OTOP ทุกท่านที่ได้ร่วมกันจัดแสดงผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์อันทรงคุณค่า งานฝีมือสุดประณีตจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และสุดยอดผลิตภัณฑ์ OTOP ทั่วไทย ความพร้อมใจในการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่นจากชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ที่สร้างสีสันตลอดงาน สื่อมวลชนที่ร่วมกันเผยแพร่ข่าวการจัดงานอย่างต่อเนื่อง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกำลังใจจากพี่น้องประชาชน แฟนพันธุ์แท้ OTOP ทุกท่าน ที่ช่วยกันอุดหนุนสินค้าชุมชน กินอาหารไทย ใช้ของไทย สวมใส่ผ้าไทย และเที่ยวเมืองไทย นอกจากจะเป็นกำลังใจสำคัญที่มอบให้แก่คนไทยด้วยกัน แสดงพลังว่าเราจะจับมือฝ่าฟันทุกวิกฤติไปพร้อมกันแล้ว ยังจะช่วยทำให้พี่น้องประชาชนจากชุมชนต่างๆ นับแสนครัวเรือนให้มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัวทำให้เงินทุกบาทหมุนเวียนไปสู่ชุมชน พัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น สร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง และชุมชนเข้มแข็งพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย" อธิบดี พช. กล่าวทิ้งท้าย




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น