วาง 4 แนวทาง สร้างความเข้มแข็งให้ขบวนการสหกรณ์
นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยผู้สื่อข่าวถึงทิศทางการดำเนินงานของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ในปี 2563 เพื่อการสร้างความเข้มแข็งให้กับขบวนการสหกรณ์ ว่า กรม ฯ ได้วางแนวทางการกำกับดูแลสหกรณ์ไว้ 4 เรื่อง หลัก ๆ คือ
1) การบริหารจัดการภายในของสหกรณ์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสาเหตุที่ทำให้สหกรณ์เกิดความบกพร่องและมีปัญหา กรมฯ จะเข้าไปส่งเสริมให้เกิดระบบบริหารจัดการ ระบบควบคุมภายใน โดยฝ่ายจัดการของสหกรณ์ต้องเข้าไปควบคุมดูแลให้ใกล้ชิดขึ้น
2) การพัฒนาธุรกิจของสหกรณ์ สำหรับสหกรณ์ภาคการเกษตรจะเน้นเรื่องการรวบรวมผลผลิต และราคาพืชผลการเกษตร การแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า รวมไปถึงการเก็บชะลอผลผลิตต่าง ๆ ส่วนสหกรณ์ออมทรัพย์ ปีนี้จะเน้นเรื่องการตรวจสอบภายใน โดยจะให้ความรู้แก่สมาชิกเพื่อเข้ามาดูแล ตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมการสหกรณ์ ขณะนี้ได้เริ่มให้ความรู้แก่สมาชิกผ่านทางระบบออนไลน์เป็นลำดับแรก เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับระบบสหกรณ์
3) บทบาทของกรมส่งเสริมสหกรณ์ในฐานะรองนายทะเบียนสหกรณ์ จะเน้นเรื่องการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา ด้วยการวางข้อกำหนด กฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อการป้องกัน รวมไปถึงการให้เจ้าหน้าที่ของกรม ฯ เข้าไปดูแล ให้คำแนะนำในช่วงก่อนที่จะตัดสินใจเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา และเมื่อสหกรณ์เกิดปัญหา ก็ได้กำชับให้สหกรณ์จังหวัดในฐานะนายทะเบียนสหกรณ์แก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว ฉับไว เพื่อไม่ให้ความเสียหายลามเข้าไปในสหกรณ์และลามไปถึงสมาชิก
4) การแก้ไขปัญหาหนี้สินให้สมาชิกสหกรณ์โดยการพัฒนาอาชีพ เพราะในปัจจุบันสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ และสหกรณ์ในภาคการเกษตร มีหนี้สินครัวเรือนสูงมาก กรมฯ จะเข้าไปดูแลในส่วนนี้ หลังจากนั้นไปดูเรื่องการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับสมาชิกสหกรณ์เพื่อให้มีเงินมาชำระหนี้
สำหรับเรื่องการพัฒนาอาชีพการเกษตรให้กับสหกรณ์ ปีนี้จะเน้นเรื่องการเกษตรที่ทำรายได้เร็ว เช่น พืช ผัก ผลไม้ และจะเน้นผลผลิตที่มีมาตรฐาน จีเอพีและสินค้าเกษตรอินทรีย์ มีสร้างระบบน้ำขึ้นมารองรับ ปีนี้กรม ฯ จะสนับสนุนเงินกู้ให้แก่สมาชิกสหกรณ์ในการจัดหาแหล่งน้ำ เป็นเงินจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ประมาณ 700 ล้านบาท รวมกับเงินจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรอีก 500 ล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรีเพิ่งผ่านความเห็นชอบ เพื่อให้สมาชิกกู้ไปเพื่อจัดหาแหล่งน้ำ ขุดสระน้ำ หรือขุดบ่อบาดาล
ในส่วนของการดำเนินงานตามนโยบายของภาครัฐ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้กำกับดูแลงานของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้วางแนวทางการดำเนินงานให้กรม ฯ ไว้ 2 เรื่อง คือ การสร้างซูเปอร์มาร์เก็ตของสหกรณ์ เพื่อเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าของสหกรณ์ ขณะเดียวกันก็จะเป็นตัวผลักดันให้เกิดการผลิตสินค้าปลอดภัยขึ้นในกระบวนการสหกรณ์ ปีนี้ตั้งเป้าไว้ประมาณ 100 สหกรณ์ ที่จะทำเรื่องผลิตสินค้าปลอดภัยและสินค้าอินทรีย์ ส่วนเรื่องที่สอง คือเรื่องพาเกษตรกรกลับบ้าน เป็นการสร้างนักเกษตรรุ่นใหม่ที่ประกอบอาชีพการเกษตร แล้วก็จะดึง
สหกรณ์เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการช่วยเหลือพวกสมาชิกเหล่านั้น และต่อจากนั้นเราก็คาดหวังไว้ว่า คนกลุ่มนี้จะกลับเข้ามาเป็นผู้บริหารสหกรณ์ในอนาคต
นายพิเชษฐ์ ได้ให้ความเห็นถึงกรณีที่มีความกังวลต่อโรคระบาด โควิด-19 ที่จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกทุเรียนและผลไม้ไปประเทศจีน ว่า การส่งออกผลไม้ของขบวนการสหกรณ์ไม่ได้ส่งออกด้วยตนเอง แต่ส่งผ่านทางผู้ส่งออก ขณะนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สำรวจตัวเลขผลไม้ที่ส่งออกทั้งหมดที่ร่วมกับผู้ประกอบการแล้วว่าหากมีการชะลอการส่งออกจริง จะต้องส่งผลกระทบแน่นอน ซึ่งกรมฯ ได้วางแผนเตรียมรับมือ และหาทางออกในเบื้องต้นไว้แล้ว เช่น การกระจายสินค้าภายในประเทศ ซึ่งกรมฯ ก็ได้เชื่อมเครือข่ายสหกรณ์ไว้มากพอสมควรที่จะกระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภคทั่วประเทศได้ แต่จะสามารถรองรับปริมาณผลไม้ทั้งหมดได้หรือไม่ ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะยังไม่มีตัวเลขที่แท้จริง เป็นเพียงการคาดการณ์ไว้เท่านั้น แต่ขณะนี้ข้อมูลทั้งหมด กรม ฯ ได้รวบรวมไว้หมดแล้ว เหลือแต่รายละเอียดเป็นรายสหกรณ์ และอยู่ระหว่างพิจารณาหาทางรับมือเพื่อลดผลกระทบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น