เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2564 (Thailand Research Expo 2021)” ครั้งที่ 16 ณ เวที Highlight Stage ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการถ่ายทอดเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยผู้สูงอายุ ระหว่าง ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) ร่วมกับ รองศาสตราจารย์ ดร.ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยทักษิณ และนายวิญญ์ สิทธิเชนทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) กล่าวถึงนโยบายการนำองค์ความรู้วิจัยและนวัตกรรมเพื่อการถ่ายทอดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยผู้สูงอายุ ว่า วช. ได้ให้ความสำคัญต่อการขับเคลื่อนประเทศและยกระดับความสามารถการแข่งขันและยกระดับคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะประเด็นผู้สูงอายุที่ได้มีนโยบายเปลี่ยนเกษียณเป็นพลังเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย โดยการสร้างโอกาสแรงจูงใจในการเข้าสู่สังคมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อพัฒนาทักษะ ศักยภาพที่จำเป็นและเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานในภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้เป็นพลังในการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ และสังคม รวมทั้งการสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมเพื่อการดูแลและช่วยเหลือผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีคุณค่า สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีอิสระในครอบครัว ท้องถิ่นและชุมชน ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือในการขับเคลื่อนร่วมกันในพื้นที่ระดับจังหวัด ชุมชน ตลอดจนสถาบันการศึกษาที่ผลิตองค์ความรู้นวัตกรรมที่ตอบสนองต่อความต้องการเพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถอาศัยอยู่ในพื้นที่สภาพแวดล้อมและชุมชนได้อย่างปลอดภัย มีความสะดวกสบาย ได้รับความช่วยเหลือจากระบบการจัดการหรือเทคโนโลยีที่มีความเหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
วช.ซึ่งอยู่ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในฐานะหน่วยงานที่มี่ภารกิจสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว หวังว่าความร่วมมือระหว่างจ.พัทลุงและมหาวิทยาลัยทักษิณ ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาในพื้นที่จะสร้างองค์ความรู้เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน โดยมีวช.ร่วมสนับสนุนและขับเคลื่อนการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการถ่ายทอดเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยผู้สูงอายุ ทำให้เกิดประโยชน์แก่ผู้สูงอายุในพื้นที่อย่างแท้จริง และยังขยายผลไปยังผู้สูงอายุในจังหวัดใกล้เคียงต่อไป
ด้านรองศาสตราจารย์ ดร.ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยทักษิณ กล่าวถึงแผนงานและแนวทางการถ่ายทอดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยผู้สูงอายุ ว่า จากโครงการประชากรผู้สูงอายุในวันนี้เราเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบในจ.พัทลุง ร้อยละ 20 ของประชากรอยู่ในสังคมผู้สูงอายุ แต่เป็นที่น่าสนใจว่าผู้สูงอายุในจ.พัทลุงมีกระบวนการดูแล ส่งเสริมการจัดการสุขภาพได้อย่างหลากหลาย มีมิติสร้างคุณภาพชีวิต มีคุณค่าโดดเด่นเป็นอย่างมาก ม.ทักษิณ ร่วมกับ วช.และจ.พัทลุง ในการจัดทำโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยผู้สูงอายุขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ดูแลส่งเสริมการจัดการและสร้างสังคมผู้สูงอายุมีคุณภาพ รวมถึงการศึกษาวิจัยและนวัตกรรมเกี่ยวกับการสร้างสังคมผู้สูงอายุ สิ่งสำคัญคือการต้นแบบหรือโมเดลการปฏิบัติการรูปแบบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เชื่อมโยงไปยังจังหวัดหรือพื้นที่อื่นๆเพื่อให้ผู้สูงอายุได้เกิดการแชร์และแบ่งปันการเรียนรู้ร่วมกัน เราคาดหวังว่าการลงนามครั้งนี้จะนำไปสู่การสรรค์สร้างและการสร้างสังคมในเชิงคุณภาพต่อไปในอนาคต ซึ่งม.ทักษิณได้ประกาศเป็นมหาวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม และการสร้างสังคมในเชิงคุณภาพและเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมผู้สูงอายุยั่งยืนให้เกิดขึ้นได้ในอนาคต
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อนงค์ ภิบาล คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ จังหวัดพัทลุง กล่าวถึงแผนงานและแนวทางการถ่ายทอดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยผู้สูงอายุ ว่า เราจะมีการสร้างนักวิจัยที่เป็นนักวิชาการและเป็นนักวิจัยหรือนวัตกรที่อยู่ในชุมชน จะมีการถ่ายทอดหลักสูตรเทคโนโลยี เราได้รับทุนจากวช.ในการผลิตหลักสูตรต่างๆหลากหลายจากการมีส่วนร่วมของจังหวัดและมหาวิทยาลัยทักษิณในส่วนนี้จะมีการสร้างอาชีพให้กับผู้สูงอายุประกอบด้วยคน3วัย และจะมีความร่วมมือระดับชาติและนานาชาติเพื่อพัฒนาให้ผู้สูงอายุได้อยู่อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้การประยุกต์ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น
นายวิญญ์ สิทธิเชนทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวถึงนโยบายผู้สูงอายุกับการพัฒนาจังหวัด ว่า ขอขอบคุณวช. ม.ทักษิณ ที่ได้มีการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เพื่อนำร่องนวัตกรรมผู้สูงอายุในจังหวัดภาคใต้ในครั้งนี้ กระบวนการทำงานในจังหวัดกับม.ทักษิณมีมายาวนานพอสมควร และวช.เข้ามาช่วยสนับสนุนเพื่อให้เกิดศักยภาพการทำงานผู้สูงอายุในจ.พัทลุงซึ่งเป็นพื้นที่นำร่องและขยายไปพื้นที่อื่นๆในภาคใต้และใกล้เคียงต่อไป การบันทึกข้อตกลงของทั้ง 2 ฝ่ายในวันนี้ เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาวิจัยนวัตกรรมสังคม การบริการวิชาการ ซึ่งเป็นการบูรณาการ ระหว่างหน่วยงานจังหวัด อำเภอ และที่สำคัญคือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะสอดประสานพลังประชารัฐในพื้นที่มีทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน ซึ่งจ.พัทลุงมีภาคประชาสังคมที่เข้มแข็งมากทั้งในเรื่องสุขภาพ การศึกษา ภูมิปัญญาท้องถิ่นและในเรื่องกรอบความคิดกระบวนการประชาธิปไตยในสังคม สร้างความเชื่อมั่นให้วช.ได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นสามารถนำไปต่อยอดในพื้นที่อื่นๆต่อไป
อนึ่งจังหวัดพัทลุงเป็นเมืองแห่งความยั่งยืนในบริบทเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคงในทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีพื้นที่นาเป็นพื้นที่ราบ พื้นที่ป่า เขา ทะเลสาบ ทรัพยากรเหล่านี้จะเป็นตัวเสริมที่ทำการศึกษาวิจัยสร้างนวัตกรรมสำหรับผู้สูงอายุ และยังมีนโยบายเรื่องสุขภาวะในจังหวัดพัทลุงก่อนแล้ว มีการพัฒนาระบบผู้สูงอายุตามคุณภาพสากล และเสริมสร้างการมีส่วนร่วมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคีเครือข่ายอื่นๆทั้งในและนอกพื้นที่ ในการสร้างนวัตกรรมดูแลผู้สูงอายุ เป็นต้นแบบในการนำเอาสิ่งที่เราค้นพบศึกษาการวิจัย จากการถอดบทเรียนต่างๆนำไปใช้ในพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม และจังหวัดพัทลุงยังอยู่ในกลุ่ม 10 จังหวัดแรก เป็นจังหวัดที่มีมวลรวมความสุขของประชากรผู้สูงอายุในจังหวัดต้นๆของประเทศอีกด้วย