วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ที่สุดปรากฏการณ์แห่งความภาคภูมิใจข้ามปี เซ็นทรัลเวิลด์ ฉลองเคาท์ดาวน์ระดับโลกแบบ New Normal ในงาน “centralwOrld bangkOk cOuntdOwn 2021” ตัวแทนประเทศไทยส่งต่อพลังบวกให้กำลังใจคนทั่วโลก ด้วยโชว์ตระการตาใจกลางกรุงเทพฯ ‘A Symbol of Hope’

เอกลักษณ์หนึ่งเดียวในไทย! ด้วยการแสดงพลุผสานเทคนิค Digital Synchronization ในรูปแบบสื่อผสม Audio & Visual Graphic Art อลังการบนจอ the panOramix ที่ยาวที่สุดในโลก

https://youtu.be/P1dyYth72a0

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา เซ็นทรัลเฟสติวัล เซ็นทรัล ภูเก็ต และเซ็นทรัลวิลเลจ จับมือพันธมิตรธุรกิจ ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, มาสเตอร์การ์ด, บริษัท แพลน บี มีเดีย จํากัด (มหาชน), บริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท วันสามสิบเอ็ด จำกัด (ช่อง ONE 31) สร้างปรากฏการณ์งานเคาท์ดาวน์ข้ามปีรูปแบบ New Normal ระดับโลก “centralwOrld bangkOk cOuntdOwn 2021 – A Symbol of Hope” ถ่ายทอดสดไปทั่วโลก ผ่านทางช่อง ONE 31, LINE TV, Bangkok Post, Workpoint Entertainment, Post Today และ centralwOrld Facebook ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนของโลกก็สามารถรับชมการแสดงสุดประทับใจได้ ด้วยเซอร์ไพรส์โชว์เพลงแห่งความหวัง และไฮไลท์นับถอยหลังก้าวเข้าสู่ปีใหม่ 2021 ด้วยไฮไลท์โชว์พลุสุดตระการตาต่อเนื่อง 5 นาที ในธีม ‘A Symbol of Hope’ สร้างสัญลักษณ์แห่งความหวัง เป็นตัวแทนประเทศไทยส่งต่อพลัง Meaningful Positivity ส่งต่อพลังจากคนไทยให้กำลังใจคนทั่วโลก ให้สมกับที่เป็น Times Square แห่งเอเชีย

            ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ปีนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่แลนด์มาร์กเคาท์ดาวน์ทั่วโลกได้พร้อมใจกันปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงาน โดยรณรงค์ให้ทุกคนเฉลิมฉลองอยู่ที่บ้าน รวมถึงที่เซ็นทรัลเวิลด์ แลนด์มาร์กเอ็นเตอร์เมนท์เคาท์ดาวน์ชั้นนำระดับโลกของประเทศมากว่า 20 ปี สำหรับไฮไลท์เด็ดของการฉลองเคาท์ดาวน์ในปีนี้คือพลุฉลองเทศกาลปีใหม่ที่จุดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ A Symbol of Hope สัญลักษณ์แห่งความหวัง ส่งต่อ Meaningful Positivity พลังจากคนไทยให้กำลังใจคนทั่วโลก มีความตระการตาต่อเนื่องยาว 5 นาที พร้อมผสานเทคนิค Digital Synchronization ในรูปแบบสื่อผสม Audio & Visual Graphic Art อลังการบนจอ the panOramix ที่ยาวที่สุดในโลก ให้สมกับดีกรีแลนด์มาร์กเอ็นเตอร์เทนเมนต์เคาท์ดาวน์ที่ดีที่สุดตลอดกาล ปิดท้ายค่ำคืนด้วยการนับถอยหลังพร้อมกันกับเซ็นทรัลเวิลด์ก้าวเข้าสู่ปีใหม่ 2021 ด้วยไฮไลท์พลุสุดตระการตาต่อเนื่อง 5 นาที ในธีม ‘A Symbol of Hope’ สร้างสัญลักษณ์แห่งความหวัง เป็นตัวแทนประเทศไทยส่งต่อพลัง Meaningful Positivity ส่งต่อพลังจากคนไทยให้กำลังใจคนทั่วโลก ให้สมกับที่เป็น Times Square แห่งเอเชีย

ครั้งแรกกับการชมพลุย้อนหลังแบบ 5G and VR Live Broadcast สุดล้ำ ด้วยการร่วมมือครั้งสำคัญระดับอินเตอร์ กับ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด (Huawei) และ บริษัท บางกอก โพสต์ จำกัด (มหาชน) หรือ Bangkok Post ให้ทุกท่านได้รับชมการแสดงพลุ  A Symbol of Hope ย้อนหลังแบบจุใจอย่างง่ายๆ เพียงสแกน QR Code ภายในศูนย์การค้า หรือดาวน์โหลด VR Application เพื่อรับชมแบบคมชัดบนมือถือของท่าน หรือรับชมที่จุด VR Experience ได้ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งแต่วันที่ 7-18 มกราคม 2564


       ความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่ซ่อนอยู่ภายใต้การแสดงพลุ A Symbol of Hope ทั้ง 4 องก์ ได้แก่

• องก์ที่ 1 : Spirit of Togetherness “ความสามัคคี” ของคนทั้งโลก คือวัคซีนล้ำค่า สื่อถึงจิตวิญญาณของผู้คนทั่วโลกที่ร่วมมือร่วมใจกันอย่างสมัครสมานสามัคคี เพื่อร่วมกันฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19

• องก์ที่ 2 : Believe in Positivity ส่งต่อ “พลังใจ” สู้ไปด้วยกัน สื่อถึงประกายแห่งความคิดบวก และการร่วมกันส่งพลังใจให้กับเพื่อนร่วมโลก

• องก์ที่ 3 : Reunite Thailand & Our World เพื่อพวกเรา เพื่อประเทศชาติ เพื่อโลกของเรา พลุสามสี สีแดง สีขาว และสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีของสีของธงไตรรงค์และสีของปลากัด สัตว์น้ำประจำชาติไทย สื่อถึงความสง่างาม ทรงพลัง อ่อนช้อย แต่มีความเป็นนักสู้อยู่ในตัว

• องก์ที่ 4 : There is Always Hope ความหวังเป็นพลังของชีวิต พลุหลากหลายสีสัน สื่อถึง diversity ของผู้คนทั่วโลก และเน้นการใช้สีแดง ซี่งเป็นสีของกาชาดสากล เพื่อส่งต่อพลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นด่านหน้าสำคัญในการต่อสู้กับโควิด-19


เซ็นทรัลเวิลด์ในฐานะตัวแทนประเทศไทยและแลนด์มาร์กเอ็นเตอร์เทนเมนต์เคาท์ดาวน์ระดับโลกของประเทศมากว่า 20 ปี ขอร่วมส่งต่อพลัง Meaningful Positivity ให้กำลังใจคนทั่วโลก จุดประกายความหวังให้ทุกคนอดทน ไม่ย้อท้อ ช่วยกันส่งผ่านกำลังใจจากคนไทย ให้กับคนทั้งโลกที่กำลังร่วมกันก้าวผ่านสถานการณ์นี้ไปพร้อมกันอย่างเต็มไปด้วยความหวังที่เชื่อมั่นว่า เราจะสามารถเอาชนะได้ในที่สุด



เรามีความห่วงใยในความปลอดภัยและสุขอนามัยของลูกค้าทุกคน และพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างเต็มที่ในการคุมเข้มมาตรการเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาด ลดความแออัด เน้นวินัย รักษาระยะห่างแบบ New Normal โดยทางเซ็นทรัลพัฒนาพร้อมให้ความร่วมมือกับทางสาธารณสุข และสำนักงานศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) อย่างเต็มที่ รวมทั้งสร้างมาตรฐาน New Norm ด้วยแผนแม่บท “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ” ที่ออกแบบ Journey การใช้ชีวิตของผู้คนอย่างละเอียดและรอบคอบ ทำให้สามารถนำมาปรับใช้ได้กับทุกสถานการณ์” ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าวทิ้งท้าย

แม็คโคร ผนึก กรมประมง หนุนอาหารทะเลปลอดภัย ปรุงสุก-ทานได้ เข้มตรวจสอบตลอดห่วงโซ่การผลิตและจำหน่าย


บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ย้ำผู้นำอาหารสดปลอดภัย เดินหน้าให้ความร่วมมือ กรมประมง ผลักดันอาหารทะเลปลอดภัย ป้องกันโควิด-19 ระบาดรอบใหม่ ร่วมหารือแนวทางเฝ้าระวังขั้นสูงสุดในการคัดเลือกสินค้าและควบคุมคุณภาพ ตลอดห่วงโซ่การผลิตและจำหน่าย พร้อมรณรงค์บริโภคแบบปรุงสุกเพื่อสุขอนามัย โดย นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร, นางจุฑารัตน์ พัฒนาทร ผู้อำนวยการฝ่ายประกันคุณภาพ ให้การต้อนรับ  นางสาวสุวิมล กีรติวิรยาภรณ์ ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ กรมประมง และคณะ ในการตรวจเยี่ยมแม็คโคร สาขานครอินทร์

แม็คโคร ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ผักท่ากระดาน ฉะเชิงเทรา ปรุงดิน บำรุงผักปลอดภัย ใต้รอยยิ้มจากรายได้มั่นคง

ผัก ถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างหนึ่ง ที่เราใช้บริโภคเป็นอาหารประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น แตงกวา ผักบุ้ง ผักกาด กระเพรา หรือแม้กระทั่งพริกขี้หนูสวน สามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรได้ไม่น้อย หากเกษตรกรมีช่องทางการจำหน่ายที่แน่นอน โดยยังคงรักษาคุณภาพของผลผลิตได้ตามมาตรฐานความปลอดภัย เช่นเดียวกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ผัก ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ที่มีสมาชิกจำนวน 31 ราย ชีวิตพวกเขาพลิกผัน หลังส่งผลผลิตผักสารพัดชนิด ไปจำหน่ายยังแม็คโคร สร้างรายได้เพิ่มขึ้น 40-50%!

@ปรุงดิน บำรุงผักปลอดภัย หลักคิดใหญ่ชาวท่ากระดาน

นายดวงจันทร์ ชาบรรทม อายุ 49 ปี ประธานวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ผักท่ากระดาน เล่าว่า “เดิมทีเกษตรกรในกลุ่มปลูกผักจำหน่ายอยู่แล้ว ซึ่งมีเกษตรกรอยู่ในกลุ่ม 31 ครัวเรือน พื้นที่รวมกันประมาณ 140 ไร่ ปลูกพืชผักกว่า 60 ชนิด อาทิ แตงล้าน แตงกวา พริก มะเขือ บวบงู บวบเหลี่ยม และผักพื้นบ้าน อย่าง ดอกมะรุม ผักแขยง ชยา ผักปรัง แต่มาประสบปัญหาในการเพาะปลูก


“เมื่อการเพาะปลูกประสบปัญหาก็ส่งผลต่อผลผลิต ทางกลุ่มจึงได้ระดมความคิด ร่วมกันพัฒนาปรับปรุงสภาพดิน และการบำรุงพืชผัก เน้นให้มีคุณภาพและความปลอดภัย แต่ก็ยังพบปัญหาด้านการตลาดอยู่เหมือนเดิมเนื่องจากต้องส่งผลผลิตไปจำหน่ายโดยผ่านคนกลาง ทำให้พวกเราเกษตรกรไม่ได้รับรายได้อย่างที่ต้องการ” 

@ แม็คโคร เสริมแกร่งช่องทางจำหน่าย  

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เล่าให้ฟังว่า “การส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ผักท่ากระดาน เกิดขึ้นจากการทำงานประสานระหว่าง แม็คโครและกรมส่งเสริมการเกษตร  โดยแม็คโครเข้าไปดูศักยภาพที่มีอยู่ของเกษตรกร พร้อมแนะนำข้อมูล การบริหารจัดการต่างๆ รวมถึงขั้นตอนการส่งผลผลิตเข้ามาจำหน่าย อาทิ การบริหารจัดการการเพาะปลูก การพัฒนาคุณภาพผลผลิตให้ได้มาตรฐานตรงกับความต้องการของตลาด การบรรจุ-ขนส่ง  ทุกอย่างต้องเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากล ซึ่งเกษตรกรในวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ผักท่ากระดาน ให้ความสนใจในการพัฒนาศักยภาพเพื่อการส่งสินค้าเข้ามาขายที่แม็คโครกันมาก ทำให้สามารถส่งผลผลิตได้ตามมาตรฐานและปริมาณที่แม็คโครต้องการ”


เมื่อเกษตรกรทำได้ นั่นหมายความว่า ทั้ง 31 ครัวเรือนที่เป็นสมาชิกวิสาหกิจชุมชนแห่งนี้ มีความมั่นคงในเรื่องรายได้มากขึ้น!

“ช่วงแรกที่เกษตรกรกลุ่มนี้ส่งผลผลิตให้แม็คโคร เริ่มที่ประมาณ 1 ตันต่อเที่ยว โดยส่งวันเว้นวัน หรือเดือนละ 15 ตัน แต่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ทำให้ทุกวันนี้ชาวท่ากระดานสามารถส่งผักมาจำหน่ายได้มากขึ้นเท่าตัว หรือ 2 ตันต่อเที่ยว หรือราว 30 ตันต่อเดือน เมื่อส่งผักตรงกับเราโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง เกษตรกรกลุ่มนี้จึงมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด” นางศิริพรกล่าว

@ รายได้สร้างรอยยิ้ม   

นายดวงจันทร์ กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เมื่อเราไม่ต้องส่งผักผ่านพ่อค้าคนกลาง  แต่ส่งตรงมาขายให้กับแม็คโครเลย ก็ทำให้พวกเราได้เงินจากการขายผักอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย มีรายได้เพิ่มขึ้น 40-50%  นอกจากนี้ แม็คโครยังได้เข้ามาช่วยให้ความรู้ในการสร้างมาตรฐานต่างๆ  ทั้งการทำความสะอาดผักก่อนส่งจำหน่าย การรักษาคุณภาพ การทำแพ็คแกจจิ้งแบบเล็กๆ สำหรับจำหน่ายให้ครัวเรือน”

สิ่งที่น่าสนใจของวิสาหกิจชุมชนแห่งนี้คือ ความใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม ที่ตกลงกันเลือกใช้วัสดุธรรมชาติเป็นบรรจุภัณฑ์ และช่วยกันคนละไม้ละมือในการบรรจุผักสดคุณภาพ ในกาบกล้วย หรือใบตอง โดยใส่ใจทุกรายละเอียด เพื่อให้ผู้บริโภคประทับใจผักชุมชนนานาชนิดของพวกเขา  


นางศิริพร กล่าวอีกว่า “แม็คโคร พร้อมเคียงข้างเกษตรกรไทย ในการส่งเสริมและสนับสนุนให้พวกเขามีศักยภาพในการเพาะปลูก และส่งผลผลิตคุณภาพเข้ามาจำหน่ายตามที่ตลาดต้องการ  โดยสิ่งที่เราเน้นย้ำกับเกษตรกรที่ส่งผลผลิตให้กับเราก็คือ ความสม่ำเสมอในการรักษาคุณภาพ ความเข้มงวดในการรักษามาตรฐานความปลอดภัย การส่งผลผลิตในปริมาณที่แน่นอน  ทั้งนี้ก็เพื่อให้คนไทยได้รับประทานผักสด ใหม่ สะอาด ปลอดภัย  ช่วยสนับสนุนผลผลิตเกษตรกรไทย  สอดคล้องกับนโยบายตลาดนำการผลิตของภาครัฐที่ได้ผลเป็นรูปธรรมยิ่ง”

ทุกวันนี้ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่ากระดานมีรายได้จากการจำหน่ายผักหลัก และผักพื้นบ้าน ให้กับแม็คโคร โดยผลผลิตของชาวบ้านกลุ่มนี้ แม็คโครนำส่งที่ศูนย์กระจายสินค้าที่วังน้อยและมหาชัย เพื่อกระจายไปยังสาขาต่างๆ ขณะเดียวกันเกษตรกรส่งตรงให้กับ 5 สาขา ที่กรุงเทพฯ สองสาขาคือ สาทร ศรีนครินทร์  สาขาฉะเชิงเทรา สาขาสระแก้ว และสาขากบินทร์บุรี 

“ลูกค้าแม็คโครเห็นผักของชาวบ้านกลุ่มนี้ก็สนใจมาก ทั้งรูปแบบการบรรจุสินค้าจากวัสดุธรรมชาติ  ชนิดของผักที่หาไม่ค่อยได้ซูเปอร์มาร์เก็ต อาทิ ดอกมะรุม ผักแขยง  แม็คโครเองก็ดีใจที่สามารถทำให้เกษตรกรไทยได้ก้าวไปอีกขั้นในการทำธุรกิจเกษตร สร้างเกษตรกรรมที่ยั่งยืน” นางศิริพร กล่าว  ทิ้งท้าย

แม็คโคร มอบสิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีพ ผ่านสถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทย แบ่งปันรอยยิ้ม ส่งต่อกำลังใจให้ชาวเมียนมาสู้โควิด-19 อย่างต่อเนื่อง


แม็คโคร ส่งต่อกำลังใจให้ชาวเมียนมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด นางสาวสุภานันท์ จันลาเศษ ผู้จัดการทั่วไป แม็คโคร สาขาสาทร และตัวแทนพนักงาน  ส่งมอบสินค้าจำเป็นกลุ่มอาหารแห้ง อาทิ น้ำมันพืช ถั่วเหลือง เกลือปรุงรส จำนวน 1,250 ชุด เพื่อนำไปมอบให้ชาวเมียนมาที่ได้รับผลกกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัรสโควิด-19 ในพื้นที่มหาชัย  จังหวัดสมุทรสาคร ผ่านสถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทย โดยมี นายเมียว เมียนตัน (H.E. U Myo Myint Than) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย เป็นผู้รับมอบ  หลังสถานการณ์โควิด-19 กลับมาระบาดระลอกใหม่ ทั้งนี้ที่ผ่านมา บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ได้ส่งมอบสิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีพและอุปกรณ์ป้องกัน  เพื่อช่วยเหลือ เป็นกำลังใจให้กับชาวเมียนมา และบุคลากรทางการแพทย์ในจังหวัดเขตติดต่อชายแดน  ตลอดจนศูนย์กักตัวในชุมชนต่างๆ ของกรุงย่างกุ้ง  รวมทั้งพนักงานแม็คโครชาวเมียนมาและครอบครัวที่ปฏิบัติงานในสาขาในประเทศเมียนมาด้วย

แม็คโคร จับมือ กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯ ดึงความเชื่อมั่น กินกุ้ง ปรุงสุก ปลอดภัย ซื้อตรงกุ้งเพิ่มอีก 200 ตัน/สัปดาห์ กระจายทุกสาขา ช่วยเกษตรกรไทยสู้โควิดรอบใหม่

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) จับมือ 2 กระทรวงใหญ่ พาณิชย์ และ เกษตรฯ รับซื้อกุ้งจากเกษตรกรรายย่อยเพิ่มอีก 200 ตัน/สัปดาห์ ช่วงที่ได้รับผลกระทบหนักจากพิษโควิดระบาดรอบใหม่ ดึงความเชื่อมั่นกุ้งปลอดภัย ปรุงสุกกินได้ กระจายสู่แม็คโครทุกสาขาทั่วไทย รับพฤติกรรมนิวนอร์มอลฉลองที่บ้าน กระตุ้นกำลังซื้อช่วงเทศกาล

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดรอบใหม่ ส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทั่วประเทศ ได้รับผลกระทบรุนแรง ทั้งๆ ที่ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายปลายปีจะเป็นช่วงขายทำรายได้ของเกษตรกร แต่เมื่อประชาชนขาดความเชื่อมั่น กังวลด้านความปลอดภัย กุ้งก็ขายไม่ได้ เกษตรกรเดือดร้อนถ้วนหน้า  แม็คโครจึงบูรณาการความร่วมมือกับภาครัฐ ทั้งกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับซื้อกุ้งโดยตรงจากฟาร์มของเกษตรกร เพื่อเร่งระบายผลผลิตให้ทันเทศกาลเฉลิมฉลองแบบนิวนอร์มอลที่บ้าน” 

“การบูรณาการความร่วมมือกับสองหน่วยงานใหญ่นี้เป็นการขับเคลื่อนอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 โดยรับซื้อตรงเพื่อช่วยเกษตรกรเพิ่มขึ้นอีก 200 ตันต่อสัปดาห์ และจัดกิจกรรมกระตุ้นการบริโภคสินค้ากุ้ง ด้วยการกระจายผ่านสาขาของแม็คโครทั่วประเทศ  ทั้งนี้แม็คโครยังได้รับการรับรองจากกรมประมงเกี่ยวกับกระบวนการตรวจสอบและจัดเก็บสินค้าว่ามีความปลอดภัยจากโควิด-19 เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน”

กิจกรรมความเชื่อมโยงและกระตุ้นการบริโภคสินค้ากุ้ง จัดขึ้นที่ แม็คโคร สาขานครอินทร์ ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน  นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง ตลอดจนภาคีเครือข่ายเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง สมาคมภัตตาคารไทย มาร่วมงานและร่วมออกบูธจำหนายเมนูอาหารปรุงสำเร็จจากกุ้งด้วย

นางศิริพร กล่าวทิ้งท้ายว่า “ในช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองแบบนิวนอร์มอล ที่ผู้คนหันมาทำอาหารทานเองที่บ้าน  ผลผลิตกุ้งจากเกษตรกรไทยน่าจะได้รับการตอบรับดีขึ้น หลังจากภาครัฐและภาคีเครือข่าย มาช่วยกันสร้างความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย ซึ่งแม็คโครไม่ได้มองเพียงการช่วยเหลือในระยะสั้น แต่ยังมองถึงการต่อยอดการพัฒนาไปสู่ความยั่งยืน ดังพันธกิจเคียงข้างเกษตรกรไทย และการเป็นผู้นำอาหารสดปลอดภัยของแม็คโคร”

ทั้งนี้แม็คโครได้นำเสนอกุ้งราคาดีจากเกษตรกรให้ผู้บริโภคทั่วประเทศเข้าถึงและมั่นใจได้  โดยเฉพาะกุ้งขาว 3 ขนาดที่เป็นไฮไลท์ช่วงส่งท้ายปี ประกอบด้วย กุ้งขนาด 40-50 ตัวต่อกิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 199 บาท กุ้งขนาด 31-40 ตัวต่อกิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 239 บาท และกุ้งขนาด 70-75 ตัวต่อกิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 189 บาท ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 มกราคม 2564









วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2563

สมาคมกุ้งตะวันออกไทย ร่วมกับจังหวัดจันทบุรีจัดกิจกรรม"สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคและช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำจากสถานการณ์โควิด-19" กินอาหารทะเลปลอดภัย


เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 ที่บริเวณลานหน้าศาลากลางจังหวัดจันทบุรีสมาคมกุ้งตะวันออกไทย ร่วมกับสำนักงานประมงจังหวัด สมาคมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย ชมรมผู้เพาะลี้ยงสัตว์น้ำจันทบุรีแปลงใหญ่ปูทะเลเขาตาหน่วย-หนองชิ่ม และบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหารจำกัด(มหาชน)ร่วมจัดกิจกรรม"สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคและช่วยเหลือเกษตรกรผู้ลี้ยงสัตว์น้ำจันทบุรี จากสถานการณ์โควิด-19" โดยนำสินคำจากเกษตรกรผู้ลี้ยงมาจำหน่ายและจัดให้มีตัวอย่างมาตรการการป้องกันโรคระบาดไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) เพื่อสร้างความมั่นใจว่าสัตว์น้ำจันท์ปลอดโควิด-19 ทั้งนี้จังหวัดจันทบุรีซึ่งเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ติดทะเล มีเกษตรกรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ชาวประมง และผู้ประกอบกิจการสัตว์น้ำอยู่จำนวนมาก กิจกรรม "สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคและช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำจันทบุรีจากสถานกรณีโควิด-19" โดยนายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ประชาชน ร่วมให้กำลังใจและเลือกซื้ออาหารทะเลที่มาออกร้านจำหน่าย อาทิ กุ้งทะเล ปลากะพง ปูทะเล ทั้งสดและปรุงสุกเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ 



นพ.อภิรักษ์ พิศุทธ์อาภรณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี กล่าวยืนยันว่าอาหารทะเลไม่ใช่พาหะในการแพร่เชื้อโควิด -19 แต่การจับอาหารทะเลสดขอให้สวมใส่ถุงมือ หรือ ภาชนะเพื่อป้องกันสิ่งปนเปื้อนและควรรับประทานอาหารด้วยการปรุงสุกเพื่อความปลอดภัย

ด้านนางสาวพัชรินทร์ จินดาพรรณ นายกสมาคมกุ้งตะวันออกไทย กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ ซึ่งมีกระบวนการป้องกันการปนเปื้อนอย่างเข้มงวด






ฤกษ์ดี “SUN” ลงนามสัญญาก่อสร้าง Mini Factory ดันยอดขายในประเทศ

เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2563 นายสนิท ศรีสุวรรณ กรรมการบริหาร ผู้แทน บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ลงนามสัญญาการก่อสร้างโครงการอาคารผลิตขนาดเล็กสำหรับสินค้าพร้อมทาน ร่วมกับ นายพิชาญ ด่านกิจยิ่งยง กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.ซี.เอ.เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ผู้รับเหมางานโครงสร้างและงานสถาปัตยกรรม และ นายอรุณ บุญฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริปเปิล พี เอ็นจิเนียริ่ง โซลูชั่น จำกัด ผู้รับเหมางานระบบสุขาภิบาล งานเครื่องกล และ ระบบไฟฟ้า เพื่อยกระดับทั้งด้านคุณภาพและปริมาณการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น





โดยบริษัทฯ ได้มอบหมายให้นายณรงค์ศักดิ์ ตามสุนทรพานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัทอาร์ชิแพลน จำกัด เป็นผู้บริหารและควบคุมงานก่อสร้าง ร่วมดูแลและให้คำแนะนำตลอดการดำเนินโครงการ ซึ่งมีระยะเวลาก่อสร้าง 4 เดือน สำหรับอาคารขนาด 1,440 ตารางเมตร เพื่อรองรับการผลิตที่ถูกสุขลักษณะและถูกต้องตามระบบคุณภาพมากยิ่งขึ้น และตอบสนองความต้องการสินค้าพร้อมทานจากลูกค้าที่มีปริมาณสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด หลังจากโครงการแล้วเสร็จจะส่งผลให้มีกำลังการผลิตสินค้าพร้อมรับประทานถึง 100,000 ชิ้นต่อวัน



โครงการอาคารผลิตขนาดเล็กสำหรับสินค้าพร้อมทาน ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าของพืชผลทางการเกษตร โดยนำมาผลิตเป็นสินค้าพร้อมทานเพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค ภายใต้แบรนด์ KC ที่หลากหลายมากกว่าเดิม คาดว่าในระยะ 3-5 ปี บริษัทฯ จะมียอดขายสินค้าพร้อมทานประมาณ 500-1,000 ล้านบาทต่อปี